เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2016 ที่ผ่านมา DELL จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวโซลูชันเอ็นด์-ยูสเซอร์ คอมพิวติ้ง ที่ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนทำงาน โดย DELL ได้ร่วมมือกับ Microsoft และ Intel ทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดที่เปิดตัวนี้ จะมาพร้อมแพลตฟอร์ม Windows 10 และระบบประมวลผลหลัก Intel®s Core™ Processors ในรุ่นที่ 6 หรือ Intel® Xeon® Processors รุ่นล่าสุดสำหรับโมบาย เวิร์กสเตชั่น
“ปี 2015 นับเป็นปีที่มหัศจรรย์สำหรับเรา ดังนั้น เราปรารถนาที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในสิ่งที่กดดันมากที่สุดคือเรื่องการประมวลผล ด้วยการนำเสนอโซลูชันชั้นนำในอุตสาหกรรมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้สมดุลทั้งเรื่องความสวยงามและทรงพลัง มามอบให้กับลูกค้า” นายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทเดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “เราลงทุนในธุรกิจส่วนนี้มากกว่าที่ผ่านๆ มา ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่มาสู่ตลาดเพื่อนิยามบทบาทใหม่ของพีซี ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพกพาแบบบาง 2 In 1 หรือเดสก์ท็อปที่ปัจจุบันสามารถรองรับเวิร์กโหลดของคนทำงานผ่านโมบายที่ต้องการโซลูชันที่ให้ศักยภาพสูงเรื่องการประสานการทำงานร่วมกัน”
นายรชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์ และเซอร์เฟซ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ขยายถึงรายละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือที่โดดเด่น และแตกต่างจากคนอื่นในครั้งนี้ว่า “ไมโครซอฟท์ กำลังเร่งวิสัยทัศน์ในการเป็นบริษัทที่ให้ผลิตผลสำหรับโลกที่คลาวด์และโมบายต้องมาก่อน เป้าหมายของเราคือการเพิ่มอำนาจให้แก่ทั้งองค์กรและบุคลากรให้ได้รับประโยชน์มากขึ้น บรรลุสิ่งที่มุ่งหวังมากขึ้น และไม่มีอะไรจะเห็นผลชัดเจนไปกว่า Windows 10 ในเดือนมกราคมปีนี้ มีดีไวซ์ซึ่งทำงานอยู่บนวินโดวส์ 10 อยู่ถึง 200 ล้านเครื่องทั่วโลก เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ลูกค้านับล้านคนต่างชื่นชอบในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 10 ด้วยระดับความพึงพอใจที่สูงกว่าวินโดวส์ทุกรุ่นในอดีต
โดยจากช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา ยอดขายพีซีที่ใช้วินโดวส์ 10 ในตลาดสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นถึง 16% จากในช่วงหนึ่งเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 62% ในขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของพีซีที่ใช้วินโดวส์ 10 เพิ่มขึ้นจาก 58% มาเป็น 87% ขณะเดียวกัน ลูกค้าองค์กร และภาคการศึกษามีความต้องการใช้งานวินโดวส์ 10 เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยกว่า 76% ของลูกค้าองค์กรกำลังอยู่ระหว่างการทดสอบใช้งานวินโดวส์ 10 และมีการใช้งานดีไวซ์วินโดวส์ 10 รวมถึง 22 ล้านเครื่องในภาคองค์กรและภาคการศึกษาอีกด้วย”
สำหรับผลิตภัณฑ์ DELL ที่ประกาศเปิดตัวในช่วงต้นปี 2016 มีดังนี้
Latitude 13 7000, Latitude 12 7000, Latitude 11 5000:
สายผลิตภัณฑ์ Latitude ก่อตั้งขึ้นพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยระดับธุรกิจ ให้ความสามารถด้านการจัดการ และความน่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์ Latitude ทั้งหมดในซีรีย์ 3000, 5000 และ 7000 มีการปรับโฉมใหม่โดยสิ้นเชิงด้วยดีไซน์ที่บางและเบา ให้ประสิทธิภาพการทำงานชั้นเยี่ยม และให้ทางเลือกระบบประมวลผลที่ทรงพลัง เดลล์ได้ยกระดับสายผลิตภัณฑ์คอมเมอร์เชียลด้วยการนำแนวคิดการดีไซน์มาจากสายผลิตภัณฑ์ XPS เพื่อให้ลูกค้าภาคคอมเมอร์เชียลได้พบกับความรื่นรมย์ในรูปโฉมผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและการใช้วัสดุที่ไม่เหมือนใคร ให้น้ำหนักเบาและความแข็งแกร่งในทุกรุ่น ด้วยการมุ่งเน้นสร้างผลิตภัณฑ์ที่สวยงามเพื่อให้ผู้ใช้เกิดความภาคภูมิใจในเวลาที่ถือ ทั้งในรุ่น Latitude 13 7000 Series Ultrabook™, Latitude 12 7000 Series 2-in-1 และ Latitude 11 5000 Series 2-in-1 สร้างบนเสาหลักที่ตอบสนองความต้องการด้านไอที ในขณะที่ให้ประสิทธิภาพระดับสูงซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานปัจจุบันที่ต้องการงานที่รวดเร็ว
Precision Workstations
การออกแบบใหม่ทั้งภายในและภายนอกเพื่อตอบสนองความต้องการมืออาชีพด้านความคิดสร้างสรรค์ โมบายเวิร์กสเตชันใหม่นั้นผสมผสานการออกแบบทั้งเรื่องความสวยงาม ให้ความบางและเบามากยิ่งขึ้น มาพร้อมจอแสดงผลที่สว่างไสวด้วยเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดที่ให้ประสิทธิภาพด้านกราฟฟิก มีระบบประมวลผลใหม่ พร้อมสตอเรจและหน่วยความจำที่เร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีการอัพเดทสำคัญๆ ในโซลูชันทาวเวอร์ Dell Precision รุ่น fixed line ระดับเริ่มต้น เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาเบาใจ Precision Workstation ยังมีการยกระดับด้วยการรับรองการใช้แอพพลิเคชันมืออาชีพทั้งหมด รวมถึงสนับสนุนนวัตกรรม ช่วยให้บรรดามืออาชีพได้รับประสบการณ์เรื่องเวิร์กโฟลว์ที่รื่นไหลไม่ติดขึ้นเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น
สายผลิตภัณฑ์นี้ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ก้าวกระโดด ด้วยทางเลือกในการตั้งค่า รวมถึงผลิตภัณฑ์ในตระกูลที่ใช้ระบบประมวลผลหลัก Intel® Core™ processors และ Intel® Xeon® ซึ่งเป็นระบบประมวลผลแรกสำหรับโมบาย เวิร์กสเตชั่น และระบบประมวลผลแห่งอนาคต Intel Xeon processors E3-1200 กราฟฟิกระดับมืออาชีพจาก AMD และ NVIDIA ให้ความสามารถด้านการประมวลผลภาพที่โดดเด่น ให้ผลงานด้านวิชวลที่ดีที่สุดในผลิตภัณฑ์ระดับเดียวกัน ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ยังมาพร้อมทางเลือกจอนวัตกรรมใหม่ ซึ่งเป็นจอแสดงผลแบบ PremierColor 4k Ultra HD ให้แถบความกว้างของสี Adobe RGB สูงสุด 100 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ ทางเลือกทั้งแบบ Full HD และ UHD บนจอดิสเพลย์ InfinityEdge ยังให้หน้าจอเสมือนว่าไร้ขอบเขต ให้มุมมอง 15.6” จากตัวเครื่องที่เล็กจนน่าตกใจ
เดสก์ท็อป Dell OptiPlex
สายผลิตภัณฑ์ OptiPlex ที่ปรับปรุงใหม่ทั้งหมดนี้ เป็นเดสก์ท็อปคอมเมอร์เชียลที่ให้ความสามารถด้านการจัดการและให้ความปลอดภัยมากที่สุดในโลก เปลี่ยนภาพจำเกี่ยวกับเดสก์ท็อปคอมเมอร์เชียล ด้วยการออกแบบในรูปของ มินิ ทาวเวอร์ รูปทรงขนาดเล็ก (Small Form Factor) และแบบเล็กมาก (Micro Form Factor) ที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น ตัวเล็กลงแต่ให้ความเร็วมากขึ้น ซึ่งรูปแบบการทำงานของคนทำงานพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทำให้องค์กรธุรกิจต้องลงทุนเทคโนโลยีที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้เร็วขึ้น ตัดสินใจได้ดีขึ้น และประสานการทำงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น ให้ประสิทธิผลของงานมากขึ้นตาม
มินิ ทาวเวอร์ จะมีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 43 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเปลี่ยนมาใช้ไมโคร เดสก์ท็อป แทนเดสก์ท็อปรุ่นเก่าทั้งหมด 10,000 เครื่องก็จะสามารถประหยัดพื้นที่ในสถานที่ทำงานซึ่งมีค่าใช้จ่ายแพง ได้มากกว่า 7,700 ตารางฟุต เรื่องนี้นับเป็นเรื่องสำคัญในเวลาที่บริษัทกำลังจินตนาการถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่พร้อมรับอนาคตและรองรับการประสานงานร่วมกันได้ดียิ่งขึ้น สายผลิตภัณฑ์ที่อัพเดทใหม่นี้ ใช้โครงสร้างตัวเลขรุ่นใหม่คือ 3000/5000/7000 เพื่อให้ลูกค้าเปรียบเทียบและเลือกผลิตภัณฑ์ได้ง่าย ได้แก่
- OptiPlex 7040 เดสก์ท็อประดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ ที่ให้ระบบบริหารจัดการและระบบรักษาความปลอดภัยในระดับพรีเมียม และให้ความสามารถในการขยายการทำงานได้สูงสุด มีกราฟฟิกแยก ฮาร์ดดิสก์คู่ และต่อออกได้ 3 จอ ทั้งหมดมาในนวัตกรรมการออกแบบเพื่อให้มีขนาดกะทัดรัด
- OptiPlex 5040 เดสก์ท็อปคอมเมอร์เชียลที่ให้ฟีเจอร์เต็มรูปแบบพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่ล้ำหน้า มีระบบบริหารจัดการและระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด ที่ไม่ต้องลดทอนฟีเจอร์สำคัญทางธุรกิจ
- OptiPlex 3040 เดสก์ท็อปเพื่อธุรกิจ ให้ความสามารถด้านการบริหารจัดการ และระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุดในผลิตภัณฑ์รุ่นเดียวกัน ให้ประสิทธิภาพสูง ในราคาที่ต่ำสุดสำหรับเดสก์ท็อปคอมเมอร์เชียลระดับเริ่มต้น
- OptiPlex 24 7000 Series All-In-One (7440) ออล-อิน-วันที่ปลอดภัยที่สุดในโลก ในดีไซน์แบบพรีเมียมรูปโฉมทันสมัยมีความบางพิเศษ ให้จอดิสเพลย์แบบ Full HD ขนาด 8” และมาพร้อมทางเลือกจอ 4K Ultra HD Display
- OptiPlex 22 3000 Series All-In-One (3240) ให้ประสบการณ์การใช้งานในแบบ ออล-อิน-วัน ด้วยประสิทธิภาพการทำงานระดับธุรกิจ มีฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มผลิตผลการทำงาน และมีจอดิสเพลย์ใหม่แบบ Full HD ขนาด 5”
นอกจากนี้ DELL เปิดตัวมอนิเตอร์คอลเลคชั่นใหม่ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรม CES Innovation Award ได้แก่จอ Dell UltraSharp 30 Ultra HD 4K OLED เป็นจอมอนิเตอร์แบบ OLED ตัวแรกของเดลล์ และ จอมอนิเตอร์ Dell UltraSharp InfinityEdge ขนาด 23.8 นิ้ว และขนาด 27 นิ้ว เป็นจอดิสเพลย์ InfinityEdge จอแรกของโลกที่มีขอบจอบางพิเศษรอบด้าน มาพร้อมก้านที่ปรับขยายให้ความยืดหยุ่นมากขึ้น และรวมระบบจัดการเคเบิล
และจากที่สำรวจชมภายในงานเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ของ DELL นั้น พบว่า ทั้งโน้ตบุ๊คแบบ 2 In 1 และคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ครุ่นใหม่ของ DELL บางรุ่น จะมาพร้อมกับพอร์ตแบบใหม่ USB-C ในการเสียบเพื่อชาร์ต ส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูง หรือต่อกับจอออกทีวีตั้งแต่แบบต่อ VGA HDMI จนไปถึงจอแบบขนาด 4K ได้ด้วย ซึ่งทาง DELL ก็ได้ผลิตอุปกรณ์เสริมแล้วสำหรับ USB-C แล้วเช่นกัน
Microsoft จับมือกับ DELL ร่วมขายและให้บริการหลังการขาย Surface Pro 4 ด้วย
และยังมีอีกข่าวที่เซอร์ไพรส์ สำหรับผู้ที่มีแผนจะเตรียมซื้อ Surface Pro 4 เพราะทาง Microsoft ได้จับมือกับ DELL ให้ DELL เป็นผู้จำหน่ายและสนับสนุนบริการหลังการขาย Surface Pro 4 ด้วย ซึ่งทาง DELL จะเริ่มจำหน่าย Surface Pro 4 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2016 นี้เป็นต้นไป