เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2016 ที่ผ่านมา คุณปานระพีและทีมงานไอที24ชั่วโมงได้ร่วมเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน OPPO โรงงานนี้ตั้งอยู่ที่ตงก่วน ประเทศจีน ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตสมาร์ทโฟนแบรนด์ OPPO และตอนนี้เป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสี่ของโลกจากผลสำรวจข้อมูลโดย IDC ด้วย และงานนี้เราได้สัมภาษณ์พูดคุยกับคุณ Luma Lu ผู้บริหาร OPPO ตำแหน่งผู้อำนวยการวางแผนเทคโนโลยีและหัวหน้าห้องปฏิบัติการ DaVinci ซึ่งทำงานอยู่กับบริษัท OPPO นาน 10 ปีแล้ว
OPPO บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชั้นนำรายใหญ่ของประเทศจีน ประกาศครองมูลค่าส่วนแบ่งการตลาดในประเทศสูงกว่า 17 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสที่ 3 และจำนวนสมาร์ทโฟนที่ถูกจัดส่งต่อปีอยู่ที่ 82 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 ซึ่งเป็นผลมาจาก ความนิยมอย่างล้นหลามของสมาร์ทโฟนรุ่น OPPO F1 Plus (หรือ R9 ในประเทศจีน) ทำให้บริษัทตั้งเป้านำโมเดลความสำเร็จในจีนมาใช้เพื่อครอบครองตลาดนอกประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิก โดยปัจจุบัน OPPO เป็นบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสี่ของโลก และด้วยกลยุทธ์การตลาดที่เริ่มขยายการทำธุรกิจออกไปทั่วโลก ทำให้มีความเป็นไปได้ที่ OPPO จะสามารถขยับลำดับขึ้นไปได้อีกในปีต่อไป
ทั้งนี้ OPPO เริ่มลุยบุกตลาดต่างประเทศตั้งแต่ปี 2009 ซึ่ง OPPO ลุยตลาดมือถือในไทยเป็นประเทศแรก ก่อนที่จะรุกตลาดไปทั่วโลกในปัจจุบัน โดยจุดเด่นของแบรนด์ OPPO คือ 1.ด้านการออกแบบ (Design ) มือถือแบบทันสมัย fashion เข้ากับวัยรุ่น ที่ได้รางวัลระดับโลก 2.คุณภาพการผลิตของสมาร์ทโฟนที่ได้สูงกว่ามาตรฐานโรงงานทั่วไป 3.เรื่องคุณภาพกล้องโดยเฉพาะเทคโนโลยีกล้องหน้า Selfie ถ่ายภาพหน้าสวยและดูเป็นจริง และ 4.แบตเตอรี่ โดยเฉพาะเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชาร์จเร็วด้วยใช้ไฟฟ้าแรงต่ำ (Fast Charge)
ภาพลักษณ์ของแบรนด์ OPPO คืออะไร
นาย Luma Lu กล่าวว่า “OPPO เป็นแบรนด์ที่เป็นวัยรุ่นเน้นเข้ากันได้กับทางวัยรุ่น ออกแบบด้วยแฟชั่นที่ทันสมัย สวยด้วยตัวเองทั้งภายในและภายนอก ทั้งภายนอกที่ออกแบบสวยงาม และภายในที่มีฟีเจอร์มากมายแต่ใช้งานง่าย การตั้งแบรนด์ OPPO นี้คิดการใหญัตั้งแต่แรกแล้ว ตั้งแต่ปี 2001 ตั้งชื่อออกมามั่นใจว่าทุกภาษาแม้อยู่ต่างประเทศ ก็สามารถอ่านออกเสียง OPPO เหมือนกันได้ ซึ่งก็หมายความว่าแบรนด์นี้ได้เป็นที่รู้จักและไว้วางใจ ซึ่งได้ลงทะเบียนหลักทรัพย์ทั่วโลกในระยะเวลาอันสั้น”
ผู้ใช้สมาร์ทโฟนและลูกค้าหลายท่านรู้จัก OPPO ในฐานะผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แต่จริงๆแล้วยังเป็นผู้ออกแบบและผลิตอุปกรณ์ดิจิตอลอื่นๆด้วย อาทิ เครื่องเล่นบลูเรย์ หูฟังแบบ magnetic และลำโพง เป็นต้น โดยศูนย์การผลิตอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ดิจิตอล เวิลด์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซิลิคอนวัลเลย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มาจนถึงตอนนี้ก็ยังได้รับความนิยมจากแถบยุโรปและอเมริกาอยู่
“การปรับปรุงคุณภาพเพื่อยกระดับช่องทางการขาย จากร้านค้าปลีกเล็กๆ ไปจนถึงผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ นับเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มยอดขายและการทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นตลาดสมาร์ทโฟนที่มีการเจริญเติบโตเร็วที่สุดในโลก”
สิ่งนี้ยังรวมไปถึงการทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นว่า พวกเขาจะได้รับสมาร์ทโฟนที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจาก OPPO ซึ่งนอกจากราคาที่ทุกคนเอื้อมถึงแล้ว ยังรวมไปถึงความคงทน ดีไซน์สุดล้ำ การทดสอบที่ได้มาตรฐาน ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นที่โรงงานการผลิตบนพื้นที่กว่า 65,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรม OPPO ในตงก่วน ประเทศจีน
ปัญหาภาพลักษณ์มือถือจีน ในสายตาชาวโลก OPPO คิดอย่างไร
ปัญหาภาพลักษณ์มือถือจีนที่ไม่ค่อยโดดเด่น เค้ามองว่า คนทั่วโลกอาจมองภาพลักษณ์มือถือจีนไม่ค่อยดี เพราะวิสัยทัศน์ที่คนทั่วโลกรู้จักเมื่อหลายๆปีว่ามือถือจีนต้องราคาถูกเท่านั้น ทางด้านผู้ก่อตั้ง OPPO ได้มองถึงปัญหานี้เหมือนกันว่าถ้าราคาถูกคุณภาพจะดีมั้ย? เลย OPPO ได้เผยวิสัยทัศน์ใหม่โดยปรับเปลี่ยนมุมมองยกระดับภาพลักษณ์มือถือจีน โดยเน้นให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพเป็นอันดับแรก ซึ่งโรงงานก็ใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก เครื่องจักรที่ดีที่สุดในโลกในการผลิตมาทำ เพื่อให้คุณภาพสูงขึ้น โดยคิดว่าคุณภาพสินค้าเป็นศักดิ์ศรีของเค้า โดย OPPO จะวางมาตรฐานคุณภาพการผลิตที่สูงกว่าแบรนด์อื่นๆ นอกจากนี้มีความคิดสร้างสรรค์ เน้นนวัตกรรมใหม่ที่แบรนด์อื่นยังไม่มีใครทำ ผลิตออกมาแล้วดูยิ่งใหญ่ ซึ่งเค้ามองสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่ OPPO ผลิตขึ้น คืองานศิลปะชิ้นหนึ่ง ซึ่งต้องผ่านกระบวนการคิดค้น ออกแบบแล้วใช่ได้จริงมั้ย เราได้มองถึงตามความต้องการของลูกค้าว่าเค้าต้องการอะไรและผลิตตอบโจทย์ลูกค้า และที่สำคัญแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ และรองรับการชาร์จแบตที่เร็วใช้เวลาการชาร์จสั้นลง ด้วย Super VOOC Flash Charge พัฒนาโดย OPPO เอง ที่สามารถชาร์จขุมพลังเต็มไวใน 15 นาที และชูเรื่องกล้อง Selfie ที่ยอดเยี่ยมด้วย
จุดเริ่มต้นของการดีไซน์สมาร์ทโฟนเกิดขึ้นที่แล็บวัตถุดิบของ OPPO ซึ่งวัตถุดิบที่จะนำไปใช้จะถูกทดสอบอายุ การใช้งาน ความคงทน การต้านทานแรงเสียดทาน และการทดสอบภายใต้สภาพแวดล้อมอื่นๆ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าวัตถุดิบเหล่านั้นผ่านมาตรฐานที่เข้มงวดและตรงตามเกณฑ์ของ OPPO ซึ่งการทดสอบของศูนย์ QE ของ OPPO ออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมคล้ายคลึงกับประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับ ทั้งยังยึดถือมาตรฐานที่มีคุณภาพสูงกว่ามาตรฐานของโรงงานทั่วไป
“เป้าหมายหลักของเราคือการผลิตสมาร์ทโฟนที่มีความสมบูรณ์แบบทางเทคโนโลยีให้กับลูกค้าคนพิเศษของเรา ดังนั้นเราจึงทำให้ลูกค้ามั่นใจ ด้วยการทดสอบสมาร์ทโฟนผ่านวิธีการกว่า 100 แบบ ก่อนที่จะส่งสมาร์ทโฟนรุ่นนั้นออกสู่ตลาด” นาย Luma กล่าวเสริม
ทำไมสมาร์ทโฟน OPPO ถึงโดดเด่นเรื่องกล้อง โดยเฉพาะกล้องหน้า
เรื่องจุดเด่นของสมาร์ทโฟน OPPO เกี่ยวกับการถ่ายภาพ Selfie ที่ดูแล้วเป็นจริงและสวยงามนั้น OPPO ได้สำรวจว่าคนเราฮิตถ่าย selfie ปี 2012 ว่าถ่ายอย่างไรให้สวย เลยพัฒนาในส่วนฟีเจอร์ของกล้องหน้าของ OPPO ทุกรุ่น ในการถ่าย selfie ให้สวยขึ้นและเป็นจริงด้วย โดยร่วมมือกับบริษัทนึงจากยุโรปในการพัฒนาเทคโนโลยี Selfie ของ OPPO ส่วนด้านตัวเซ็นเซอร์ก็ร่วมมือกับ SONY ในการร่วมคิดค้นด้านฮาร์ดแวร์ใหม่ ซึ่งฮาร์ดแวร์เซ็นเตอร์ตัวใหม่ที่ว่านี้ใช้กับ OPPO โดยเฉพาะเท่านั้น ไม่ใช้กับแบรนด์อื่น
“ยกตัวอย่างเช่น เมื่อตอนที่เราออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมอย่าง N3 เราได้ทำการทดสอบอย่างเข้มงวดกับนวัตกรรมกล้องหมุนได้ ซึ่งในขณะนั้นถือเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมกับนวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติ”
นับตั้งแต่การเข้าสู่ตลาดมือถือเมื่อปี 2008 OPPO ได้เป็นผู้นำในการผลิตสมาร์ทโฟน โดยได้ริเริ่มผลิตสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ๆในโลก อาทิ สมาร์ทโฟนรุ่น Find 7 ที่สามารถถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซลเครื่องแรกของโลก นอกจากนี้ยังมีสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแบบ QHD และยังรวมไปถึงการเป็นเจ้าของเทคโนโลยีการชาร์จที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับสมาร์ทโฟน
เคยคิดที่จะทำสมาร์ทโฟนบนระบบปฏิบัติการของแบรนด์ตัวเองที่ไม่ใช่ Android หรือไม่?
ในช่วงนี้ยังพัฒนาบน Android ไปก่อน โดยคาดหวังว่าจะเป็นมือถือที่ดีที่สุดในบรรดามือถือ Android แต่อนาคตก็มีแผนที่จะสร้างระบบปฏิบัติการของตนเองเหมือนกัน
แล้วเรื่องปัญหาเทคโนโลยี fast charge ในรุ่นอนาคต บน Android7.0 จะทำอย่างไร ?
เมื่อตอนนี้ Google ออกเอกสารห้ามใช้เทคโนโลยีชาร์ทเร็ว และให้หันมาใช้ USB-C แบบมาตรฐานในการชาร์จไฟเท่านั้น?
นาย Luma Lu กล่าวว่า “ถึงแม้ว่า GOOGLE ออกกฎ Android ว่าจะไม่ให้ใช้คุณสมบัติเทคโนโลยี fast charge บนเทคโนโลยีของแต่ละแบรนด์ในอนาคตอย่างบน Android 7.0 ตามที่เป็นข่าวนั้น ทาง OPPO กำลังเจรจากับทาง GOOGLE อยู่ และตามกฎของ Android 7.0 ระบุว่าห้ามใช้ fastcharge ด้วยการใช้ไฟฟ้าสูง แต่ของ OPPO เองได้พัฒนา Super VOOC Flash Charge ให้ชาร์จเร็วโดยใช้ไฟฟ้าต่ำ ซึ่งปลอดภัยกว่าการชาร์จด้วยไฟฟ้าสูง และไม่กระทบต่อกฎการชาร์จในข้อนี้ ตอนนี้อยู่ในระหว่างเจรจาเพื่อดูทิศทางและทำความเข้าใจ
การผลิตสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ของ OPPO ใช้เวลาคิดค้นนานแค่ไหน ?
“เบื้องหลังการคิดค้นมือถือ OPPO รุ่นใหม่นั้นลองออกแบบตัวมือถือทดสอบภายในห้องปฏิบัติการ DaVinci ก่อน ใช้เวลาแห่งการคิดค้น 6-8 เดือน หากออกแบบแล้วผ่านสามารถผลิตได้จริงก็ส่งเข้าสู่การเริ่มผลิต และ OPPO เองก็กำลังทำมือถือ 5G ให้คนทั่วโลกได้ใช้ โดยขณะนี้ OPPO เองก็จดสิทธิบัตรด้าน 5G แล้วหลายรายการ โดยผลิตเน้นฟีเจอร์ที่ตรงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก”
5 ปีข้างหน้าของสมาร์ทโฟน คาดหวังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง ?
เรื่องมองเทรนด์อนาคตของสมาร์ทโฟนนั้น ผมมองว่าอีก 5 ปีข้างหน้า แน่นอนความอัจฉริยะของสมาร์ทโฟนจะมากขึ้นไปอีกตามกาลเวลา และช่วยในด้านสารสนเทศมากขึ้น และที่สำคัญคืออาจมีรูปแบบดีไซด์ที่เปลี่ยนไปที่ไม่ใช้เราถือใช้ในปัจจุบัน มันอาจเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายของเราก็ได้ ” นาย Luma กล่าว
ทั้งหมดนี้คือการสัมภาษณ์กับคุณ Luma Lu ผู้อำนวยการวางแผนเทคโนโลยีและหัวหน้าห้องปฏิบัติการ DaVinci ของ OPPO จะเห็นได้ว่า ผู้บริหาร OPPO มีวิสัยทัศน์ในการออกแบบและให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพในผลิตสมาร์ทโฟน ซึ่งตอนนี้ชูเรื่องการผลิตสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ การออกแบบที่สวย มีฟีเจอร์กล้องหน้า Selfie ที่เป็นจุดเด่นสุด ตลอดจนพยายามเรียนรู้และคิดค้นฟีเจอร์ใหม่ๆให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้ด้วย