AMI คืออะไร? Advanced Machine Intelligence เป็นแนวทางวิจัย AI ที่เสนอโดย Yann LeCun ที่มุ่งเน้นการพัฒนา AI ให้ เข้าใจโลกทางกายภาพ, มีความทรงจำถาวร, และสามารถ วางแผนและใช้เหตุผล
Yann LeCun คือใคร?
Yann LeCun คือหนึ่งในบิดาผู้บุกเบิกยุคใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ (AI) เขาประกาศว่าจะลาออกจากตำแหน่งที่ Meta Platforms ในช่วงท้ายปี 2025 และจะก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ที่เน้นงานวิจัยทาง AI ภายใต้ชื่อ Advanced Machine Intelligence (AMI)
เขาเข้ามาใน Meta ตั้งแต่ปี 2013 เพื่อก่อตั้งหน่วยวิจัยภายในชื่อ Facebook AI Research (FAIR) และภายใน 12 ปี เขาดำรงบทบาทเป็นทั้งผู้ก่อตั้ง FAIR (5 ปี) และ Chief AI Scientist (7 ปี) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนา deep learning, computer vision และ large-scale language modeling เทคโนโลยีเบื้องหลังฟีเจอร์อย่าง recommendation ใน Instagram และระบบ generative AI ของ Meta
LeCun กล่าวว่างานใหม่ของเขาภายใต้ AMI จะสานต่อแนวคิดที่เริ่มภายใน FAIR และขณะสอนที่ New York University (NYU) พร้อมเสริมว่าแม้ Meta จะเปลี่ยนบทบาทของเขา แต่บริษัทจะยังเป็น “พันธมิตร” กับสตาร์ทอัพใหม่นี้ และมีส่วนร่วมในเป้าหมายระยะยาวของ AMI
LeCun ยกให้การสร้าง FAIR เป็น “ความสำเร็จที่ภาคภูมิใจที่สุดนอกเชิงเทคนิค (non-technical)” ของเขา และชี้ว่า FAIR มีบทบาทอย่างยิ่งใหญ่ต่อ Meta, วงการ AI และโลกโดยรวม
AMI คืออะไร?
AMI หรือ Advanced Machine Intelligence เป็นโครงการหรือแนวทางวิจัย AI ที่มุ่งไปไกลกว่าการใช้โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models: LLMs) แบบที่นิยมกันในช่วงนี้ เช่น LLM ที่สร้างข้อความ, แปลภาษา, ตอบคำถาม ฯลฯ
จุดมุ่งหมายของ AMI คือการพัฒนา “Intelligent systems”
- เข้าใจโลกทางกายภาพ (physical world) : ไม่ใช่แค่ทำงานกับข้อความหรือสัญลักษณ์ แต่ “เข้าใจ” สิ่งที่เกิดขึ้นในโลกจริง
- มี หน่วยความจำถาวร (persistent memory) : ไม่ใช่แค่ตอบคำถามตาม prompt ที่ได้รับแล้ว “ลืม” แต่สามารถจำและใช้ความรู้ในระยะยาว
- มีความสามารถในการ เหตุผล (reasoning) และ วางแผน (planning) สำหรับการทำงาน หรือการกระทำที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน (multi-step tasks)
- จัดการกับความไม่แน่นอน (uncertainty) เป็น AI ที่สามารถทำงานได้ในเข้าใจโลกจริง แม้ว่าข้อมูลอาจไม่ชัดเจน และอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องตัดสินใจบนทางเลือกที่หลากหลาย ซึ่งใกล้เคียงกับ “ปัญญา (intelligence)” ในมนุษย์ มากกว่า AI ในปัจจุบัน
ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดของ AI สมัยใหม่ ที่จะพัฒนา AI ที่ “เข้าใจโลกจริง” และ “คาดการณ์-วางแผน-กระทำ” ได้เหมือนสิ่งมีชีวิต หรือใกล้เคียงมนุษย์
World-model AI คืออะไร?
World-model AI เป็นแนวคิดที่ AMI ใช้พัฒนา AI โดย World-model หมายถึง แบบจำลองภายใน (internal model / internal representation) ของโลก หรือสภาพแวดล้อมที่ AI สร้างขึ้นภายในตัวเอง รวมถึงวัตถุ กฎฟิสิกส์ การเปลี่ยนแปลงเมื่อมีปฏิสัมพันธ์ แตกต่างจากโมเดลแบบ “input → output” ที่แค่ทำนายผลลัพธ์โดยตรง เช่น โมเดลแปลภาษา หรือ โมเดลสร้างข้อความ แต่ world-model จะรวมส่วนที่ “จำลอง (simulate)” สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เมื่อ AI ทำ “action” บางอย่าง โดยอิงจาก “state ปัจจุบัน และ กฎของโลก
world-model เป็น “จิตจำลองของโลกจริง” ที่ช่วยให้ AI “คิด (imagine) – ทดลองในใจ – แล้วตัดสินใจ” ก่อนที่จะลงมือทำจริงในโลกจริง
คุณสมบัติหลักของ world-model AI
- จำลองฟิสิกส์ / ความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (causal, physics-consistent dynamics) world model จะเรียนรู้ “กฎ” ของโลก เช่น วัตถุเคลื่อนที่อย่างไร, การชน การตก การชนกัน, การเปลี่ยนแปลงเมื่อมีการกระทำ ฯลฯ
- รองรับข้อมูลหลายชนิด (multimodal) ไม่ใช่แค่ข้อความหรือโค้ด: world-model สามารถรับข้อมูลจากภาพ (image), วิดีโอ (video), เซ็นเซอร์, สถานะ (state), การเคลื่อนไหว (motion) ฯลฯ และรวมข้อมูลเหล่านี้เข้าเป็น “state ภายใน” ที่ระบบเข้าใจได้
- การพยากรณ์ (prediction) & การจำลอง (simulation) AI สามารถ “ลองคิดดู” ว่า ถ้าทำ A จะเกิดอะไรขึ้น (predict future states) โดยไม่ต้องทดลองในโลกจริง — เหมาะกับ robotics, ยานพาหนะอัตโนมัติ, agent ที่ต้องตัดสินใจในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน
- ฝึกฝนแบบ sample-efficient, ลดความเสี่ยงจากการทดลองจริง — เนื่องจากสามารถ “simulate” ภายในโลกจำลองได้ ทำให้ลดการทดลองในโลกจริงที่อันตราย และเรียนรู้ได้เร็วกว่าในหลายกรณี
- รองรับการ reasoning, planning, decision-making — เพราะ world-model เข้าใจ dynamics ของโลกและการกระทำ ก็ทำให้ AI สามารถวางแผนหลายขั้นตอน (multi-step planning), ประเมินผล, ตัดสินใจอย่างมีเหตุผลในหลายสถานการณ์ได้ ใกล้เคียงกับ “intelligence” จริง
สรุป การก่อตั้ง AMI
AMI พยายามสร้าง AI ขั้นสูง ที่เข้าใจโลกจริง, จดจำ, คำนวณเหตุผล, และสามารถตัดสินใจ และวางแผนการทำงานที่ซับซ้อนได้ เป็น AI ที่มากกว่าการสร้างข้อความ, ภาพ หรือเสียงอย่างที่ LLMs ทำได้ในปัจจุบัน
LeCun เชื่อว่า แม้ว่า LLMs จะ “มีประโยชน์” แต่ ไม่ใช่เส้นทางที่จะนำไปสู่ “intelligence จริง” (real AI / human-level AI) ได้ และ AMI คือแนวทางที่เขาเห็นว่าสำคัญสำหรับ “ปฏิวัติครั้งต่อไป” ของ AI และจะทำให้ AI เข้าใกล่ “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI)” มากขึ้น
อ้างอิง reuters.com และ cover iT24Hrs
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
AMI คืออะไร? โมเดล AI ที่จะไปได้ไกลกว่า LLMs?
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs






