วิธีลบแอปให้ถูกวิธี ไฟล์ขยะให้หายเกลี้ยง!

หลายคนอาจคิดว่าการ ลบแอปพลิเคชัน (Uninstall) ออกจากมือถือนั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แค่กดค้างแล้วเลือก “ถอนการติดตั้ง” แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การลบด้วยวิธีทั่วไปนี้อาจทำให้ “ไฟล์ขยะ” (Junk Files) หรือ “แคช” (Cache) ของแอปนั้นๆ ยังคงหลงเหลืออยู่ในเครื่อง ซึ่งเมื่อสะสมเข้ามากๆ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สมาร์ตโฟนของคุณทำงานช้าลงได้ ดังนั้นเราควรลบแอปอย่างถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าทั้งตัวแอปและบรรดาไฟล์ขยะที่มาพร้อมกันจะถูกล้างออกไปทั้งหมด

วิธีลบแอปให้ถูกวิธี เพื่อกำจัดไฟล์ขยะให้หายเกลี้ยง

ขั้นตอนต่อไปนี้เป็นการ “ล้างแคชและข้อมูล” ของแอปก่อนทำการถอนการติดตั้งจริง ซึ่งจะช่วยให้ไม่มีไฟล์ส่วนเกินหลงเหลืออยู่ในระบบ

(ขั้นตอนเหล่านี้อ้างอิงจากระบบปฏิบัติการ Android แต่หลักการคล้ายคลึงกันในทุกระบบ)

1. ไปที่เมนูการตั้งค่า (Settings)
2. เลือกเมนู “แอป” (Apps) หรือ “แอปพลิเคชัน”
3. เลือกแอปที่ต้องการจะลบ
4. กด “บังคับหยุดใช้งาน” (Force Stop) ที่อยู่ด้านล่าง จากนั้นกดยืนยัน “ตกลง” (ขั้นตอนนี้จะทำให้แอปหยุดการทำงานทั้งหมดชั่วคราว)
5. เลือก “จัดเก็บข้อมูล” (Storage) หรือ “พื้นที่เก็บข้อมูล”
6. กด “จัดการข้อมูล” (Manage Data) ที่อยู่ด้านล่าง
7. กด “ล้าง” (Clear) หรือ “ล้างแคชและข้อมูล” เพื่อให้แคชของแอปกลายเป็น 0
   • ข้อควรระวัง: หลังจากล้างข้อมูลแล้ว ควรกดกลับออกมาและ อย่ากลับไปเปิดใช้งานแอปนี้อีก ก่อนที่จะถอนการติดตั้ง เพราะมันจะเริ่มเก็บแคชเข้ามาใหม่อีกครั้ง
8. กด “ถอดการติดตั้ง” (Uninstall)
9. กดยืนยัน “ตกลง” เป็นอันเสร็จสิ้น

เหตุผลที่ต้องลบด้วยวิธีนี้

การทำตามขั้นตอนข้างต้นจะทำให้แอปถูกลบออกจากเครื่อง พร้อมกับการล้างบรรดาไฟล์ขยะที่เคยเป็นของแอปนั้นออกไปอย่างหมดจด

แม้ว่าไฟล์ขยะแต่ละไฟล์อาจมีขนาดเล็กน้อย แต่เมื่อมีการดาวน์โหลดและลบแอปบ่อยครั้ง ไฟล์เหล่านี้จะ รวมกันและสะสมมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้พื้นที่เก็บข้อมูลลดลงและส่งผลให้การทำงานของเครื่องช้าลงได้

ดังนั้น การลบแอปด้วยวิธีที่ถูกต้องตามขั้นตอนที่แนะนำจึงเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญในการดูแลสมาร์ตโฟนของคุณให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีอยู่เสมอ