เปิดตัว Apple Watch Series 11 ตรวจจับความดันโลหิตสูง คะแนนการนอนหลับ รองรับเครือข่าย 5G

เปิดตัว Apple Watch Series 11 มาพร้อมกระจกด้านหน้า Ion-X ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ พร้อมความทนทานต่อรอยขีดข่วนที่ดีขึ้น 2 เท่า ด้วยการเคลือบเซรามิกใหม่ที่ออกแบบโดย Apple เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับพื้นผิว สำหรับรุ่นไทเทเนียมยังคงใช้กระจกด้านหน้าแซฟไฟร์

Apple Watch Series 11 มาพร้อมชิป S10 เช่นเดียวกับ Series 10 แต่การเชื่อมต่อ 5G พร้อมใช้งานบนรุ่นเซลลูลาร์เป็นครั้งแรก มอบการเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นพร้อมปริมาณการรับส่งข้อมูลที่มากขึ้น เสาอากาศเซลลูลาร์ที่ได้รับการออกแบบใหม่ครอบคลุมย่านความถี่โหมดและทำงานร่วมกับเสาอากาศทั้งสองของระบบพร้อมกันเมื่อจำเป็น ช่วยเพิ่มความแรงของสัญญาณได้อย่างมาก

Apple Watch Series 11 แบตใช้ได้นานถึง 24 ชั่วโมง อัปเกรดจากเดิม 18 ชั่วโมง รองรับชาร์จเร็จ แค่ชาร์จ 15 นาที ก็สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง

การตรวจจับความดันโลหิตสูงจะแจ้งเตือนคุณหาก Apple Watch ตรวจพบสัญญาณความดันโลหิตสูงเมื่อเวลาผ่านไป ด้าน Apple เผยว่าจะไม่สามารถตรวจจับความดันโลหิตสูงได้ทั้งหมด แต่คาดว่าจะสามารถแจ้งเตือนผู้คนมากกว่า 1 ล้านคนเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงที่ไม่ทราบสาเหตุภายในปีแรก ระบบนี้ใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์วัดหัวใจแบบออปติคัลเพื่อวิเคราะห์ว่าหลอดเลือดของผู้ใช้ตอบสนองต่อการเต้นของหัวใจอย่างไร อัลกอริทึมจะทำงานแบบพาสซีฟเบื้องหลังโดยตรวจสอบข้อมูลเป็นระยะเวลา 30 วัน

ฟีเจอร์ “Sleep Score” แสดงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผู้ใช้ตั้งเป้าหมายการนอนหลับที่ฟื้นฟูร่างกายได้มากขึ้น โดยพิจารณาจากระยะเวลาการนอนหลับ ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอน ความถี่ในการตื่น และระยะเวลาที่ใช้ในแต่ละช่วงการนอนหลับ

Sleep Score จะแสดงรายละเอียดองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดของการนอนหลับอย่างชัดเจน

Apple Watch Series 11 ยังคงมีให้เลือกทั้งขนาดตัวเรือน 42 มม. และ 46 มม. มีทั้งรุ่น Wi-Fi และ Cellular ที่ครั้งนี้รองรับ 5G

รุ่นอะลูมิเนียมมีให้เลือกในสีดำ Jet Black, Silver, Rose Gold และ Space Gray

ส่วนตัวเรือนไทเทเนียมขัดเงามีให้เลือกในสี Natural, Gold และ Slate

ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท โดยวันจำหน่ายในไทยจะแจ้งให้ทราบในภายหลัง ส่วนสหรัฐเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้ววันนี้ และวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 19 กันยายน