- ปี 1994 เปลี่ยนระบบโทรศัพท์มือถือจากเดิมเป็น อานาลอค ( Analog ) สู่ระบบดิจิตอล (Digital) โดยใช้แพลตฟอร์มของ GSM
- ปี 1999 ปลดล็อคอีมี่ออกจากมือถือทั้งหมดในประเทศ ทำให้เบอร์โทรศัพท์ และเครื่องมือถือ แยกออกจากกันโดยสิ้นเชิง
- ปี 2001 เริ่มให้บริการโทรศัพท์ระบบเติมเงินเป็นครั้งแรก (Prepaid)
- ปี 2005 สมาร์ทโฟนเริ่มได้รับความนิยมในประเทศไทย
- ปัจจุบัน มีเบอร์มือถือมากถึง 81 ล้านเลขหมาย ซึ่งจำนวนเบอร์โทรศัพท์มือถือ กลับมีมากกว่าจำนวนประชากรในไทย
- ยอดดาวน์โหลดเพลงผ่านโทรศัพท์มือถือ มากกว่า 20 ล้านเพลงต่อปี
- มีการส่งข่าวสาร 24 ล้านชื้น ต่อวัน
- จำหน่ายหนังสือแบบ E-Book มากกว่า 2 แสนเล่มต่อเดือน
ประโยชน์ที่ได้รับของประชาชน หลังจากให้บริการด้านโทรคมนาคม โดยเฉพาะเทคโนโลยี 3G นี้ จะทำให้เกิดขีดความสามารถการส่งข้อมูลผ่านมือถือด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดเนื้อหา content ต่างๆ สามารถเปลี่ยนมาเป็น Digital Content ที่หลากหลายไม่มีที่สิ้นสุด อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์บนมือถือ และงานด้านธุรกิจ โดยเฉพาะ ไอซีที จะขยายตัวมากขึ้น
นายวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS กล่าวว่า “AIS จะให้บริการ 3G ครอบคลุมจังหวัดหลักๆให้ได้ 50% ของประชากร ภายในครึ่งปีแรก และ จะครอบคลุม 80% ภายในครึ่งปีหลัง (ส่วนใหญ่จะเป็นเขตเมืองของทั้ง77จังหวัด)” นอกจากนี้ AIS ได้เปิดตัวบริการหลายอย่างแต่มีบริการที่เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจและค่อนข้างใหม่มากสำหรับชีวิตไอที เช่น บริการ AIS My Cloud บริการพื้นที่เก็บข้อมูล โดยบริการนี้สามารถใช้ร่วมกับมือถือสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการหลักๆอย่าง IOS , Android , Symbian , Blackberry รวมทั้ง WindowsPhone 8 ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา โดยแอพ My Cloud นี้จะเชื่อมกับเบอร์โทรศัพท์ AIS สามารถ Sync ทั้งรายชื่อโทรศัพท์ รองรับสำหรับการเปลี่ยนเครื่องโทรศัพท์มือถือโยสามารถดึงรายชื่อจากโทรศัพท์มือถือเครื่องเกาลงในโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ได้ทันที เอกสาร รูปภาพ รวมไปถึงตั้งค่าความปลอดภัยต่างๆ และมีแอพบริการตามหามือถือหาย และฝังแอพติดตามโจรที่ขโมยมือถือด้วย โดยจะเริ่มให้บริการบน IOS และ Android วันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้
ในด้านการชำระซื้อสินค้า ทั้งออนไลน์ และร้านค้าต่างๆผ่านทางโทรศัพท์มือถือ งานนี้ได้เผยนวัตกรรมใหม่ถึง 2 อย่างที่น่าจับตามองคือ
และแล้วเทคโนโลยีที่หลายท่านรอคอยและกำลังจะได้ใช้ในไทยภายในปีนี้ คือ NFC เมื่อ AIS จับมือกับ BTS ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าและบัตร Rabbit ให้มือถือที่รองรับเทคโนโลยี NFC สามารถแตะชำระสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมโครงการ RABBIT รวมทั้งสามารถใช้โดยสารผ่านทางรถไฟฟ้า BTS และรถโดยสาร BRT ได้ด้วย เริ่มให้บริการภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ โดยต้องใช้ซิมใหม่ กับโทรศัพท์มือถือ ที่รองรับเทคโนโลยี NFC
(จากที่ทีมงานไอที 24 ชั่วโมงได้สอบถามกับทีมงานของ rabbit ก็ได้คำตอบมาว่า ต้องใช้ซิมใหม่โดยซิมนี้ที่สามารถทำงานคู่กับ NFC โดยเฉพาะ และบัตรRabbit ใน NFC นั้นก็ต้องสมัคร RABBIT ใหม่ ยังไม่สามารถใช้กับบัตร RABBIT ที่เราถือใช้ในปัจจุบันมาอยู่ในมือถือได้ )
NFC คืออะไร และใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ดูได้ที่ รู้จักกับเทคโนโลยี NFC ในมือถือรุ่นใหม่หลายรุ่น และวิธีการใช้งานให้เป็นประโยชน์
นอกจากนี้ ภายในงาน ทีมงานไอที24 ชั่วโมงได้ถามกับคุณวิเชียร เมฆตระการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AIS เกี่ยวกับกรณี กสทช. สั่งให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ยกเลิกกำหนดวันหมดอายุของบริการโทรศัพท์มือถือเติมเงิน ( Prepaid ) ซึ่งจะมีผลวันนี้ ( 18 มกราคม 2556 ) ว่า มีความพร้อมแค่ไหน ? นายวิเชียรกล่าวตอบว่า “ มีความพร้อม มีแพคเกจ Offer ให้อยู่แล้ว วันที่ 18 มกราคมมีผลทันที โดยมีแพคเกจที่ไม่มีวันหมดอายุด้วย โดยเป็นไปตามข้อที่บริษัทกำหนด ” โดยสรุปแล้ว ภายในปีนี้คนไทยจะได้สัมผัสกับเทคโนโลยี 3G ความถี่ 2.1 GHz และ แอพพลิเคชั่นแบบใหม่ รูปแบบ Cloud , Mobile Payment และเทคโนโลยี NFC ที่กำลังจะเกิดขึ้นในไทยภายในปี 2556 นี้






