The Best Inventions of 2025 จาก TIME ในหมวดหมู่ หุ่นยนต์ (Robotics) ได้มีการคัดเลือก 4 นวัตกรรมที่น่าจับตามองที่สุด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงก้าวสำคัญของเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันและภาคอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้ง
ปี 2025 ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ของวงการ Robotics เมื่อกำแพงกั้นระหว่าง ‘เทคโนโลยีชั้นสูงในห้องแล็บ’ กับ ‘อุปกรณ์ใช้งานในบ้าน’ กำลังพังทลายลง นิตยสาร TIME ได้คัดเลือก The Best Inventions of 2025 (สิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2025) ในหมวดหุ่นยนต์ ที่สะท้อนให้เห็นเทรนด์สำคัญของการใช้งานหุ่นยนต์ที่เราจะเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ
1. Figure 03: หุ่นยนต์พ่อบ้านเต็มรูปแบบ
Figure 03 เป็นหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์รุ่นที่ 3 จากบริษัท Figure AI ในซิลิคอนแวลลีย์ ที่ถูกออกแบบใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อรองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน ทั้งใน บ้าน และ เชิงพาณิชย์/โรงงาน ด้วยเป้าหมาย “หุ่นยนต์ทั่วไปที่ทำงานเหมือนมนุษย์”
หุ่นยนต์ Figure 03 ไม่ได้มีดีแค่รูปร่างเหมือนมนุษย์ แต่ถูกพัฒนาให้ทำงานบ้านที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนได้จริง เช่น การพับผ้า หรือการจัดเรียงจานเข้าเครื่องล้างจาน (แม้ยังต้องมีมนุษย์ช่วยกดปุ่มสั่งงานในบางขั้นตอน) นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการจัดการกับวัตถุที่แตกหักง่ายอย่าง “ไข่ไก่” ได้อย่างแม่นยำ
Helix: สมอง AI ที่รวมการมองเห็น ภาษา และการลงมือทำ
หัวใจของ Figure 03 คือระบบปัญญาประดิษฐ์ Helix ซึ่งเป็นโมเดล Vision-Language-Action (VLA) ที่ผสานการรับรู้ผ่านภาพ การเข้าใจภาษา และการวางแผนการกระทำเข้าไว้ด้วยกัน Helix ทำให้หุ่นยนต์สามารถตีความคำสั่งธรรมชาติ, ตรวจสอบสิ่งแวดล้อม, และตัดสินใจลงมือทำงานได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมขั้นตอนเฉพาะในแต่ละงาน
ความสามารถของ Helix ไม่ได้จำกัดอยู่เพียง “รับคำสั่งแล้วทำตาม” เท่านั้น แต่ยังให้หุ่นยนต์สามารถ เรียนรู้จากการดูมนุษย์ทำงานจริง, ปรับปรุงทักษะจากประสบการณ์ และสร้างการตอบสนองที่เหมาะสมได้ด้วย ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้พับผ้าหรือจัดจานจากคลิปวิดีโอฝึกสอนเพียงไม่กี่สิบชั่วโมง
การรับรู้และการสัมผัสของ Figure 03
สิ่งที่ทำให้ Figure 03 แตกต่างจากหุ่นยนต์ทั่วไปคือระบบรับรู้ที่ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น
- ระบบกล้องใหม่ ให้ภาพที่มีอัตราเฟรมสูงขึ้น, ความหน่วงต่ำ, และมุมมองที่กว้าง ช่วยให้หุ่นยนต์มองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัวในเวลาจริงได้ดีขึ้น
- กล้องฝังในฝ่ามือ ทำให้หุ่นยนต์สามารถเห็นวัตถุใกล้มือได้แม้เมื่อกล้องหลักถูกบัง
- เซนเซอร์สัมผัสที่ไวถึงระดับกรัม ช่วยให้หุ่นยนต์รับรู้แรงกดที่ละเอียดมาก จับสิ่งของบอบบางหรือรูปทรงซับซ้อนได้แม่นยำ เช่น การจัดแก้วหรือวัตถุเปราะบางโดยไม่ทำให้แตก
การรวมการมองเห็นและการสัมผัสเข้าด้วยกันทำให้ Figure 03 มีทักษะที่ก้าวหน้ามากกว่าการใช้งานแบบ “เพียงแค่เคลื่อนไหว” ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับหุ่นยนต์ทั่วไปที่ต้องทำงานในบริบทที่มีความซับซ้อนสูง เช่น ห้องครัวหรือห้องนั่งเล่นมนุษย์
สถาปัตยกรรมและการออกแบบเพื่อใช้งานจริง
Figure 03 ตัวหุ่นมีน้ำหนักลดลงเหลือประมาณ 70 กิโลกรัม สูง 1.68 เมตร และยกของได้หนักถึง 20 กิโลกรัม พร้อมข้อต่อที่ออกแบบใหม่ให้เคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วและปลอดภัยต่อมนุษย์มากขึ้น Figure 03 ได้รับการออกแบบให้ ปลอดภัยและเหมาะสำหรับใช้งานกับมนุษย์ โดยมีรายละเอียดด้านฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสำหรับบ้านและพื้นที่ทำงานจริง:
- การชาร์จไร้สายแบบ inductive 2 kW ทำให้หุ่นยนต์สามารถเดินไปยังแท่นชาร์จและเติมพลังงานเองได้โดยไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อ
- ผิวหุ่นยนต์เป็นวัสดุอ่อนและถอดซักได้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยเมื่อทำงานใกล้คน และสามารถรักษาความสะอาดได้ง่าย
- ระบบเสียงและไมโครโฟนปรับปรุงใหม่ ช่วยให้การสื่อสารผ่านเสียงธรรมชาติกับผู้ใช้งานมีความชัดเจนและเชื่อถือได้มากขึ้น
ขนาดและน้ำหนักก็ถูกปรับให้เหมาะสมกับพื้นที่ภายในบ้านทั่วไป ส่วนกำลังยกและความแข็งแรงก็ถูกออกแบบให้สมดุลระหว่างประสิทธิภาพและความปลอดภัย
จากบ้านสู่โลกธุรกิจ: การผลิตจริงและความท้าทาย
ไม่เพียงแต่เป็นตัวต้นแบบ Figure AI วางแผนผลิต Figure 03 เพื่อจำหน่ายจริง โดยการสร้างโรงงานผลิตของตัวเองชื่อ BotQ ซึ่งตั้งเป้าผลิตหลักหมื่นถึงแสนหน่วยในช่วงปีแรก ๆ นับเป็นความพยายามครั้งใหญ่ที่จะทำให้หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ไม่ใช่แค่ “ของทดลอง” อีกต่อไป
2. EufyMake E1 UV Printer: โรงพิมพ์ส่วนตัวบนโต๊ะทำงาน
ในยุคที่งานสร้างสรรค์และการพิมพ์เชิงศิลป์ไม่ได้จำกัดอยู่ในโรงงานใหญ่อีกต่อไป ปรากฏการณ์ใหม่อย่าง EufyMake E1 UV Printer จาก Anker Innovations ได้เปลี่ยนความคิดเดิม ๆ เกี่ยวกับการพิมพ์แบบ UV และงานคราฟต์ด้วยการนำเสนอเครื่องพิมพ์ UV แบบตั้งโต๊ะที่ผสานฟีเจอร์ระดับมืออาชีพไว้ในเครื่องเดียว
EufyMake E1 UV Printer ปฏิวัติการพิมพ์ด้วย UV แบบ “3D Texture”
EufyMake E1 ไม่ใช่แค่เครื่องพิมพ์สีธรรมดา แต่มันคือเครื่องพิมพ์ UV แบบแรกของโลกที่ทำการพิมพ์พื้นผิวเชิงนูน 3 มิติ (3D Texture) ได้ลึกถึง 5 มิลลิเมตร สิ่งนี้หมายความว่างานที่ได้ไม่ใช่ภาพเรียบแต่มีกลิ่นอายของงานศิลปะที่จับต้องได้ ทั้งลายไม้ ลายหนัง และพื้นผิวเชิงศิลป์อื่น ๆ ซึ่งปกติเทคโนโลยีนี้จะพบได้เฉพาะในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เท่านั้น
EufyMake E1 มีขนาดที่สามารถวางบนโต๊ะทำงานได้ โดยมีขนาดเพียง 330 × 420 มม. และรองรับวัตถุสูงถึง 60 มม. เหมาะสำหรับการใช้ใน บ้าน, สตูดิโองานออกแบบกราฟิก และ ธุรกิจขนาดเล็ก ที่ต้องการคุณภาพระดับ มืออาชีพ
เทคโนโลยี Amass3D
Amass3D ซึ่งเป็นวิธีวางเลเยอร์ของหมึก UV แบบพิเศษ ทำให้เกิด พื้นผิวที่มีทั้งสีและเนื้อสัมผัสจริง โดยยังคงความละเอียดสูงถึง 1440 DPI ทำให้รายละเอียดคมชัดและสีสันมีความสดใส
EufyMake E1 สามารถในการพิมพ์ลงบนวัสดุหลากหลายมากกว่า 300 ชนิด เช่น โลหะ, ไม้, อะคริลิก, หนัง, แก้ว และพลาสติกอื่น ๆ รวมทั้งรองรับการพิมพ์ทั้งแบบแผ่นเรียบและแบบทรงกระบอก เช่น แก้วน้ำหรือแก้วของที่ระลึก ด้วยโมดูล Rotary Printing Attachment ซึ่งขยายขอบเขตการใช้งานให้กว้างยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์เหล่านี้ทำให้ E1 เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ตั้งแต่การทำของขวัญตามคำสั่งไปจนถึงผลิตภัณฑ์เฉพาะทางสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือสตูดิโอออกแบบ
พิมพ์ด้วยระบบ AI และฟีเจอร์เสริม
EufyMake ได้รวมระบบ AI-powered creative workflow เข้าไปในซอฟต์แวร์ของ E1 ทำให้การออกแบบและพิมพ์ง่ายขึ้นอย่างมาก โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึง ไลบรารีเทมเพลตมากกว่า 20,000 แบบ พร้อมเครื่องมือปรับภาพแบบอัตโนมัติ เช่น การลบพื้นหลัง, เปลี่ยนสไตล์ภาพ หรือการจัดวางองค์ประกอบให้เหมาะสมก่อนพิมพ์ ซึ่งเหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและมืออาชีพ
นอกจากนี้ยังมีระบบ Dual Laser & Snapshot Camera สำหรับวัดตำแหน่งการพิมพ์อย่างแม่นยำ และระบบ JetClea ที่ช่วยทำความสะอาดหัวพิมพ์เอง เพื่อลดปัญหาการอุดตันและการบำรุงรักษาที่ยุ่งยาก
ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามบน Kickstarter
EufyMake E1 สามารถทำลายสถิติระดมทุนบนแพลตฟอร์ม Kickstarter โดยได้รับการสนับสนุนมากกว่า 46 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากผู้ร่วมลงทุนทั่วโลก ทำให้กลายเป็นโปรเจกต์ที่ระดมทุนสูงสุดในประวัติศาสตร์ของแพลตฟอร์มนี้ ณ ปี 2025
3. HoverAir X1 ProMax: ตากล้องบินได้ส่วนตัว
ในยุคที่ครีเอเตอร์และนักผจญภัยต้องการภาพที่น่าทึ่งและมีสไตล์จากมุมมองอากาศ HoverAir X1 Pro Max โดรนถ่ายภาพอัจฉริยะจาก Zero Zero Robotics กลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าจับตามองที่สุดของปี 2025 ด้วยการออกแบบสำหรับการบินแบบ ติดตามตัวเอง (self-flying) พร้อมคุณภาพภาพระดับสูง
โดรนติดตามตัว
หนึ่งในจุดหลักที่น่าสนใจคือของ HoverAir X1 ProMax คือระบบ AI-assisted autonomous flight ที่ช่วยให้โดรนสามารถบินติดตามและถ่ายภาพผู้ใช้ได้แบบอัตโนมัติโดยแทบไม่ต้องควบคุมเอง ซึ่งเหมาะกับกิจกรรมที่ต้องการภาพเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เช่น วิ่งเทรล, ปั่นจักรยาน หรือ เล่นสกี ระบบบินติดตามนี้รวมไปถึงโหมดอัจฉริยะอื่น ๆ เช่น Zoom Out, Orbit, Dolly Track และ Cycling Mode ซึ่งช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ให้กับคอนเทนต์
HoverAir X1 ProMax มีน้ำหนักเพียงประมาณ 192.5 กรัม พร้อมโครงสร้างแบบพับเก็บได้ ทำให้มันเป็นโดรนที่ พกพาสะดวกและง่ายต่อการเดินทาง โดยมีระยะบินติดตามสูงสุดประมาณ 500 – 1000 เมตร ซึ่งเพียงพอสำหรับการเก็บภาพกิจกรรมทั่วไป และมีระดับแรงต้านลมของโดรนอยู่ที่ Level 5 ทำให้มันยังบินได้เสถียรในสภาพลมแรงระดับกลาง ๆ
แต่แบตเตอรี่ของ X1 ProMax ทำให้บินได้สูงสุดประมาณ 16 นาทีต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีพื้นที่เก็บข้อมูลภายในขนาด 64 GB และรองรับ microSD สูงสุดถึง 1 TB
ภาพวิดีโอระดับสูง: 8K ที่จัดเต็มสำหรับครีเอเตอร์
HoverAir X1 ProMax โดดเด่นด้วยความสามารถในการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 8K 30fps และรองรับ 4K120fps สำหรับสโลว์โมชั่น ทำให้ภาพดูคมชัด เหมาะกับการตัดต่อระดับมืออาชีพ
สเปกหลักที่น่าสนใจอื่นๆ ได้แก่
- เซนเซอร์ 1/1.3″ CMOS พร้อมเลนส์มุมกว้าง 107°
- ระบบกันสั่น (SmoothCapture 2.0) ด้วยกิมบอลสองแกน + EIS
- รองรับทั้งการถ่ายภาพนิ่งสูงถึง 48 MP และวิดีโอคุณภาพสูง
ความปลอดภัยในการบิน
ความปลอดภัยคืออีกหนึ่งจุดแข็งของ X1 ProMax โดยมันติดตั้งระบบ Vision + Proximity Sensors เพื่อช่วยตรวจจับสิ่งกีดขวางและลดความเสี่ยงจากการชนในทิศทางต่าง ๆ ขณะบิน ซึ่งช่วยให้การถ่ายวิดีโอแบบอัตโนมัติมีความปลอดภัยมากขึ้นในการใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง
ระบบนี้ยังทำงานร่วมกับฟีเจอร์ OmniTerrain ที่ช่วยให้โดรนสามารถบินได้อย่างมั่นคงแม้ในพื้นที่ที่มีพื้นผิวซับซ้อน เช่น หุบเขา ป่า หรือชายหาด
Unitree Introducing | Unitree R1 Intelligent Companion Price from $5900
4. Unitree R1: หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ราคาจับต้องได้
ในช่วงปลายปี 2025 ที่ผ่านมา Unitree Robotics บริษัทหุ่นยนต์จากจีนได้สร้างความฮือฮาในวงการด้วยการเปิดตัว Unitree R1 หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ที่มีราคาต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ราคาของ Unitree R1 ที่ทำให้โลกตะลึง
หัวใจของข่าว R1 คือ ราคาเริ่มต้นเพียงประมาณ $5,900 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 190,000 บาท) ซึ่งช่วยทำให้หุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์เข้าสู่กลุ่มนักวิจัย นักศึกษา และคนทั่วไปที่อยากทดลองประสบการณ์จริงได้ง่ายขึ้น และราคานี้ยังถูกจัดให้เป็น หนึ่งในการเปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ที่ถูกที่สุดในตลาดโลก
สเปกพื้นฐานของ Unitree R1
แม้จะราคาย่อมเยา แต่ Unitree R1 มีสเปกระดับที่น่าประทับใจสำหรับหุ่นยนต์ต้นแบบ:
- ความสูงประมาณ 1.21 เมตร และน้ำหนักราว 25 กิโลกรัม — ผอมบางและเบาพอที่จะเคลื่อนไหวในพื้นที่ภายในได้ง่าย
- Degrees of Freedom อยู่ที่ตั้งแต่ 24 ถึง 40 DOF แล้วแต่รุ่น ซึ่งช่วยให้มันสามารถทำท่าทางพื้นฐานและซับซ้อนได้มากขึ้น
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- ระบบช่วยมองเห็นประกอบด้วยกล้องแบบ binocular vision พร้อมระบบเสียงด้วยไมโครโฟน 4 ตัวและสปีกเกอร์ในตัว เพื่อรองรับอินเทอร์แอกชันพื้นฐาน
ความคล่องตัวและการเคลื่อนไหว
แม้ Unitree เองจะนำเสนอ R1 เป็นแพลตฟอร์มสำหรับงานทดลอง แต่สาธิตการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์นั้นน่าสนใจไม่น้อย โดย R1 สามารถทำ วิ่ง, หงายหลัง, ทำท่าคาร์ทวีล, ชกและเตะเล็กน้อย ข้อต่อและระบบขับเคลื่อนช่วยให้มันเคลื่อนไหวได้อย่างค่อนข้างคล้ายมนุษย์
ฟีเจอร์สำหรับการวิจัยและการพัฒนา
หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ R1 คือการ รองรับการควบคุมแบบเปิด (open control interfaces) ที่ช่วยให้นักพัฒนาและนักวิจัยสามารถเชื่อมต่อซอฟต์แวร์ของตัวเองกับฮาร์ดแวร์ได้โดยตรง เหมาะสำหรับสถาบันการศึกษาและงานพัฒนา AI หุ่นยนต์
จุดแข็งด้านการศึกษา และข้อจำกัด
Unitree R1 ถูกมองว่าเป็น แพลตฟอร์มการเรียนรู้และพัฒนาที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับห้องปฏิบัติการ สถาบันการศึกษา หรือโครงการวิจัยที่ต้องการหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์จริง ๆ แต่ไม่สามารถลงทุนในรุ่นสูงราคาแพงได้
แม้จะมีความสามารถเคลื่อนไหวที่น่าประทับใจ แต่การใช้งานในแง่ของ “หุ่นยนต์ช่วยงานบ้านจริงจัง” ยังอยู่ในวงจำกัด เพราะระบบ AI ยังไม่ได้ถูกออกแบบให้สามารถทำงานที่หลากหลายเสมือนมนุษย์จริง
สรุป 4 สุดยอดหุ่นยนต์ใน The Best Inventions of 2025 จาก TIME
4 สุดยอดหุ่นยนต์นี้ชี้ให้เห็นว่าปี 2025 คือปีแห่งการ “ย่อส่วน” และ “เข้าถึงง่าย” ของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ จากที่เคยอยู่แค่ในโรงงานหรือห้องทดลอง วันนี้หุ่นยนต์กำลังก้าวเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันของเราแล้ว
อ้างอิง และ cover time.com
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
The Best Inventions of 2025 จาก TIME ยก 4 สุดยอดหุ่นยนต์แห่งปี 2025
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs






