นํ้าท่วม 2568 เป็นวิกฤษที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ต้นปี ประเทศไทยเผชิญกับปริมาณฝนที่มากกว่าปกติ ประกอบกับอิทธิพลของพายุหลายลูก ส่งผลให้หลายพื้นที่ทั่วประเทศเข้าสู่ภาวะนํ้าท่วมขั้นวิกฤต โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและปริมณฑล แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสถานการณ์นํ้าในแต่ละพื้นที่เป็นยังไงบ้าง? ต่อไปนี้คือช่องทางเราสามารถใช้ตรวจสอบสถานการณ์นํ้าท่วมได้
1 เว็บไซต์ กรมทรัพยากรน้ำ (DWR)
เว็บไซต์ กรมทรัพยากรน้ำ (DWR) รวบรวมรายงานสถานการณ์น้ำทุก ๆ 24 ชั่วโมง เป็นช่องทางเผยแพร่ข้อมูล สถานการณ์ และการแจ้งเตือนภัยที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรน้ำทั้งน้ำท่วมและภัยแล้ง มีภารกิจเกี่ยวกับการ “พัฒนา การบริหารจัดการ การบำรุงรักษา ฟื้นฟู และอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ รวมถึงการจัดสรรการใช้น้ำ การป้องกันและบรรเทาความเสียหายอันเกิดจากทรัพยากรน้ำ” มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราติดตามสถานการณ์นํ้าท่วม เช่น
สถานการณ์ลุ่มน้ำ & รายงานสถานการณ์น้ำ
เว็บไซต์มีลิงก์ไปยังข้อมูลสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศ พร้อมรายงานสถานการณ์สำคัญ เช่น ปริมาณน้ำฝน, ระดับน้ำในแหล่งน้ำขนาดเล็ก, สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 12 แห่ง, ข้อมูลเฝ้าระวังภัยน้ำท่วม และแนวโน้มสภาพอากาศ 7 วันข้างหน้า
มีข้อมูลแยกตามภูมิภาค ทำให้ประชาชนและหน่วยงานท้องถิ่นสามารถติดตามสถานการณ์เฉพาะพื้นที่ของตนได้อย่างแม่นยำ
แอปพลิเคชัน “DWR HN”
กรมทรัพยากรน้ำยังได้พัฒนาแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนชื่อ DWR HN บนระบบ Android ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลอุทก-อุตุนิยมวิทยาได้ทันเวลา เช่น สถานีวัดน้ำ-ฝน การพยากรณ์น้ำหลาก เป็นต้น
2 เว็บไซต์ กรมชลประทาน – ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ
เว็บไซต์ของศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (Smart Water Operation Center หรือ SWOC) ภายใต้กรมชลประทาน เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่เปิดโอกาสให้ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรที่เกี่ยวข้อง เข้าถึงข้อมูล สถานการณ์ และเครื่องมือสนับสนุนการตัดสินใจ เพื่อช่วยลดผลกระทบจากน้ำท่วมหรือน้ำหลากได้อย่างมีประสิทธิภาพ เว็บไซต์มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราติดตามสถานการณ์นํ้าท่วม เช่น
แผนที่แสดงสถานการณ์น้ำแบบเรียลไทม์
บนหน้าเว็บไซต์มีข้อมูล “แผนที่แสดงสถานการณ์” สำหรับลุ่มน้ำ แม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ และลำน้ำสำคัญทั่วประเทศ เช่น ผังน้ำเจ้าพระยาตอนบนรายวัน, ผังน้ำลุ่มเจ้าพระยา, ระดับน้ำทะเล เป็นต้น
ด้วยฟีเจอร์นี้ ผู้ใช้สามารถดูภาพรวมว่า “น้ำอยู่ในระดับใด” มีแนวโน้มน้ำล้นหรือไม่ ซึ่งช่วยให้เตรียมพร้อมรับมือได้ก่อนสถานการณ์เลวร้าย
ข้อมูลอ่างเก็บน้ำ และน้ำในระบบชลประทาน
เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลสถานะของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ เช่น ปริมาณน้ำคงเหลือ, สถานะการระบาย และการเติมน้ำของอ่างเก็บน้ำ
ในสถานการณ์น้ำหลาก ข้อมูลนี้สำคัญมาก เพราะจะช่วยในการตัดสินใจถึงจำเป็นต้องปล่อยน้ำเมื่อใด หรือ ควรเก็บกักไว้เพื่อรองรับน้ำในอนาคต
การพยากรณ์น้ำ และคาดการณ์ฝนและน้ำหลาก
SWOC ใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูล เช่น Big Data, IoT, การวิเคราะห์ภาพดาวเทียม และข้อมูลอุตุนิยมวิทยา เพื่อคาดการณ์แนวโน้มน้ำหลากได้ล่วงหน้า ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงมีเวลามากขึ้นในการเตรียมอพยพ หรือเตรียมมาตรการลดความเสียหาย เช่น เคลื่อนย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูง
ระบบแจ้งเตือน และการสื่อสารสถานการณ์
มีการประกาศเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งล่าสุดเคยแจ้งเตือน 52 จังหวัดให้เฝ้าระวัง ฝนตกหนัก, น้ำท่วมนํ้าป่าไหลหลาก หรือดินโคลนถล่ม
การสื่อสารแบบนี้ถือเป็นจุดที่สำคัญ เพราะข้อมูลไม่ใช่แค่เก็บไว้ แต่ต้องส่งถึงผู้ใช้งานจริง เพื่อให้เกิดการเตรียมพร้อมทันเวลา
3 Disaster Platform – สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA)
แพลตฟอร์ม Disaster Platform ของ GISTDA มีบทบาทสำคัญ เพราะเป็น “หน้าต่างข้อมูล” ที่รวบรวมภาพถ่ายดาวเทียม ข้อมูลแผนที่ และฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต่อการเฝ้าระวัง เตรียมพร้อม และตอบสนองภัยน้ำท่วมได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
Disaster Platform เป็นระบบที่ GISTDA พัฒนาเพื่อให้บริการข้อมูลด้านภัยพิบัติ โดยเฉพาะ ได้แก่ น้ำท่วม ไฟป่า และภัยแล้ง ระบบนี้รวบรวมทั้งภาพถ่ายดาวเทียม แผนที่ออนไลน์ บทสรุปสถานการณ์ และชุดข้อมูลที่สามารถดาวน์โหลดได้ ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราติดตามสถานการณ์นํ้าท่วม เช่น
- แผนที่ออนไลน์แสดงขอบเขตพื้นที่น้ำท่วม: ระบบมีแผนที่แบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ ซึ่งสามารถแสดงพื้นน้ำท่วมที่ตรวจจับโดยดาวเทียมหรือเรดาร์
- ดาวน์โหลดฐานข้อมูล GIS / Shapefile: ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลพื้นที่น้ำท่วมย้อนหลัง เช่น ขอบเขตพื้นที่น้ำท่วมรายปีของไทย
- สรุปรายงานสถานการณ์ภัยน้ำท่วม: มีบทสรุปสถานการณ์ประจำวันที่จัดทำโดย GISTDA รวมถึงข้อมูลที่ใช้ประกอบการตัดสินใจ
- การใช้ภาพจากดาวเทียมและเทคโนโลยีเรดาร์: ระบบใช้ภาพจากดาวเทียมของ GISTDA เช่น THEOS-2 และดาวเทียมคู่ค้า เพื่อวิเคราะห์พื้นที่น้ำท่วม แม้ในสภาพมีเมฆหรือกลางคืน
- ข้อมูลเสริมประกอบการประเมินผลกระทบ: นอกจากพื้นที่น้ำท่วมแล้ว แพลตฟอร์มยังมีข้อมูลด้านประชากร พื้นที่เพาะปลูก และโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยประเมินผลกระทบได้รอบด้าน
4 ThaiWater – คลังข้อมูล สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน)
แพลตฟอร์ม ThaiWater เป็นหนึ่งในเครื่องมือหลัก ที่รวบรวมข้อมูลด้านทรัพยากรน้ำและภูมิอากาศของประเทศเข้าด้วยกัน เพื่อให้สามารถติดตาม วิเคราะห์ และเตรียมรับมือกับภัยน้ำท่วมจาก “ข้อมูลจริง” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คลังข้อมูลน้ำแห่งชาติ ซึ่งดำเนินการโดย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลทรัพยากรน้ำและภูมิอากาศของประเทศ ทั้งข้อมูลในระดับพื้นที่ สถานการณ์น้ำปัจจุบัน ข้อมูลสถิติย้อนหลัง และข้อมูลคาดการณ์ต่าง ๆ
ปัจจุบันระบบดังกล่าวเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐหลายสิบแห่ง เพื่อให้เกิดการใช้ข้อมูลร่วมกันในระบบการจัดการน้ำทั้งในภาวะปกติและในภาวะวิกฤต เช่น ภัยน้ำท่วมได้อย่าง “ทันเวลาและมีประสิทธิภาพ” ซึ่ง ThaiWater มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราติดตามสถานการณ์นํ้าท่วม เช่น
ระบบติดตามสถานการณ์น้ำ และระดับน้ำ
ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลระดับน้ำในแม่น้ำ ลำน้ำ สถานีวัดต่าง ๆ รวมทั้ง “ระดับตลิ่ง” และ “ความจุลำน้ำ” ได้อย่างละเอียด เช่น หน้า “ข้อมูลระดับน้ำ” บน ThaiWater.net แสดงข้อมูลจากสถานีวัดทั่วประเทศ
ฟีเจอร์นี้สำคัญมากในกรณีที่ต้องการเฝ้าระวังว่า “ระดับน้ำเพิ่มขึ้นเกินเกณฑ์ปลอดภัยหรือยัง” หรือ “จุดไหนเสี่ยงล้น”
ระบบคาดการณ์น้ำท่วม น้ำหลาก
ThaiWater มีเมนู “ระบบคาดการณ์น้ำท่วม” (Flood Forecast Monitoring System) ซึ่งใช้ข้อมูลปริมาณน้ำ ท่า น้ำฝน และระดับน้ำ เพื่อประเมินแนวโน้มน้ำท่วมน้ำหลากในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีระบบ “เตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน” ที่คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันภายใน 24 ชั่วโมง ด้วยเทคนิคการซ้อนทับข้อมูลหลายชุด
ฟีเจอร์นี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่และประชาชนเตรียมการล่วงหน้าได้ดีขึ้น เช่น ย้ายทรัพย์สินขึ้นที่สูงขึ้น หรือเตรียมแผนอพยพ
ข้อมูลฝนและอากาศ และข้อมูลเขื่อน
ThaiWater ให้ข้อมูลปริมาณฝนรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รวมถึงฝนสะสมย้อนหลังและแผนที่ฝนทั่วประเทศ
มีข้อมูลเขื่อน และอ่างเก็บน้ำ เช่น ปริมาณน้ำคงเหลือ, ปริมาณน้ำเข้า, ปริมาณน้ำออก และปริมาณความจุ ใช้ประกอบการประเมินว่า “เขื่อนจะรองรับน้ำเพิ่มได้หรือไม่”
แอปพลิเคชัน ThaiWater
ผู้ใช้ทั่วไปสามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน ThaiWater ได้ เพื่อดูข้อมูลสถานการณ์น้ำและอากาศแบบมือถือแบบเรียลไทม์ เมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยง
ข้อมูลเปิด
ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดชุดข้อมูลต่าง ๆ เช่น ระดับน้ำย้อนหลัง ฝน พื้นที่ลุ่มน้ำ ฯลฯ เพื่อใช้วิเคราะห์เชิงพื้นที่ หรือทำโมเดลจัดการน้ำในระยะยาว
5. แอป RainViewer
แอป RainViewer เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่น่าสนใจ เพราะรวมทั้งแผนที่เรดาร์การเคลื่อนตัวของฝน, พายุ, การแจ้งเตือนล่วงหน้า และภาพรวมสภาพอากาศที่คุณสามารถเข้าถึงได้ทันทีในมือถือ
RainViewer พัฒนาโดย MeteoLab Inc. โดยมีจุดเด่นคือการใช้ข้อมูลเรดาร์ ภาพดาวเทียม และโมเดลอากาศ เพื่อแสดงผลฝนแบบเรียลไทม์ทั่วโลก และแจ้งเตือนภัยอากาศรุนแรง รวมถึงน้ำท่วม ในพื้นที่ที่ใช้งานได้ ซึ่งแอป RainViewer มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้เราติดตามสถานการณ์นํ้าท่วม เช่น
- แผนที่เรดาร์แบบสด (Live Radar Map): แอปมีแผนที่เรดาร์อัปเดตสภาพฝนตกและพายุทั่วโลก ทุก 5 – 10 นาที ซึ่งช่วยให้เห็นพายุและกลุ่มฝนเคลื่อนตัวเข้าหาพื้นที่ได้อย่างชัดเจน
- การแจ้งเตือนพายุและฝนหนัก (Severe Weather Alerts): ผู้ใช้สามารถตั้งค่ารับการแจ้งเตือนล่วงหน้าสำหรับฝนตกหนักหรือสภาพอากาศรุนแรงได้ อาทิ น้ำท่วมหรือพายุดังในโซนของตนเอง
- พยากรณ์ฝนระยะสั้น & ดาวน์โหลดประวัติเรดาร์: นอกจากแสดงฝนที่กำลังตกแล้ว ยังมีโมเดลพยากรณ์ฝนในอีก 1-2 ชั่วโมงข้างหน้า และประวัติการเคลื่อนตัวของฝนย้อนหลัง ซึ่งช่วยประเมินว่า “พื้นที่ฝนกำลังเลื่อนเข้าหรือกำลังลดลง”
- การติดตามหลายพื้นที่ (Multi-location tracking): ผู้ใช้สามารถตั้งหลายพื้นที่ที่สนใจ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง
- วิดเจ็ต & กิจกรรมสดบนหน้าจอ (Widgets & Live Activities): ใน iOS และ Android รองรับวิดเจ็ตที่แสดงแผนที่เรดาร์บนหน้าจอหลักของโทรศัพท์โดยไม่ต้องเปิดแอปเต็มหน้าจอ ช่วยให้ดูภาพรวมได้เร็วขึ้น
สรุป ช่องทางติดตามสถานการณ์ นํ้าท่วม 2568
และนี่คือช่องทางต่าง ๆ ที่ช่วยให้เราสามารถติดตามสถานการณ์น้ำท่วมได้ เพื่อให้เราสามารถรับมือและเตรียมตัวได้อย่างทันเวลา และลดผลกระทบจากน้ำท่วมที่เกิดขึ้น
อ้างอิง dwr.go.th wmsc.rid.go.th disaster.gistda.or.th thaiwater.net rainviewer.com
cover iT24Hrs
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
นํ้าท่วม 2568 ตรวจสอบช่องทางไหนได้บ้าง
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs






