ตำรวจเตือน แลกสิทธิ์คนละครึ่งพลัสเป็นเงินสด เข้าข่ายฉ้อโกง เข้าข่ายฉ้อโกง จำคุก 3 ปี ปรับ 60,000 บาท
สำนักงานตำรวจแห่งชาติออกโรงเตือนประชาชน ห้ามนำสิทธิในโครงการ คนละครึ่งพลัส ไปแลกเป็นเงินสด หรือใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง ย้ำเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่อาจกระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากการนำสิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์
โดยรัฐบาลภายใต้การนำของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เปิดโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ผ่านวงเงินสนับสนุนสำหรับซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม ในโครงการ “คนละครึ่ง” ที่ผ่านมา รวมถึงล่าสุดอย่างคนละครึ่งพลัส ครั้งนี้ พบพฤติการณ์บางรายทั้งประชาชนและร้านค้า นำสิทธิไปแลกเงินสด หรือสมรู้ร่วมคิดกันใช้สิทธิโดยไม่มีการซื้อขายจริง ซึ่งถือเป็น “การแสดงข้อความอันเป็นเท็จ” และเข้าข่ายความผิดฐาน “ฉ้อโกง” ตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังอาจถูกระงับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโครงการของรัฐในอนาคต และต้องชดใช้คืนเงินให้รัฐ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงขอเตือนประชาชนที่ได้รับสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ว่า ห้ามนำสิทธิดังกล่าวไปขายต่อ หรือใช้โดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง เพราะเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
เปิดปฏิบัติการ รับ–แลก–ลวง สกัดขบวนการโกงสิทธิ์รัฐ
นอกจากการเตือนประชาชนแล้ว สำนักงานตำรวจแห่งชาติยังได้เปิดปฏิบัติการใหญ่ภายใต้ชื่อ “ปิดเกม รับ–แลก–ลวง” เพื่อสกัดขบวนการโกงสิทธิ์รัฐ หลังพบกลุ่มมิจฉาชีพใช้สื่อสังคมออนไลน์หลอกประชาชนนำสิทธิ “คนละครึ่งพลัส” ไปแลกเงินสด อันเป็นการบิดเบือนเจตนารมณ์ของโครงการ
โดย ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกับ กระทรวงการคลัง โดย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่
น.ส.วันทนีย์ อายุ 24 ปี จับกุมที่ ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ
น.ส.ทิพย์เทวี อายุ 31 ปี จับกุมที่ ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
น.ส.นาตาชา อายุ 26 ปี จับกุมที่ ต.เนินกว้าว อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์
ทั้งสามถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน
“ทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
รวมถึง “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงภายในประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือเศรษฐกิจของประเทศ”
การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการสกัดแผนการหลอกลวงก่อนที่กระแสการทุจริตในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” จะระบาดในวงกว้าง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติย้ำว่า จะดำเนินคดีอย่างจริงจังกับผู้ที่ร่วมขบวนการโกงสิทธิ์ของรัฐ และขอให้ประชาชนที่พบเห็นพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าว แจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง
อ้า่งอิง ตำรวจสอบสวนกลาง cover iT24Hrs
อ่านบทความและข่าวอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ it24hrs.com
ตำรวจเตือน แลกสิทธิ์คนละครึ่งพลัสเป็นเงินสด เข้าข่ายฉ้อโกงตามกฎหมาย
อย่าลืมกดติดตามอัพเดตข่าวสาร ทิปเทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs






