อัปเดตกลโกงมิจฉาชีพที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่อง หลอกลวงผู้คนให้ตกเป็นเหยื่ออยู่เรื่อยๆ ดังนั้นถ้าไม่อยากโดนหลอก ไม่อยากตกเป็นเหยื่อ เราต้องระวังตัว และดูกลโกงออนไลน์ของคนร้ายให้เป็น และในคลิปนี้ได้รวบรวมกลโกลมิจฉาชีพเอาไว้แล้ว
ทุกวันนี้มิจฉาชีพเยอะมาก คอยจ้องจะหลอกเอาเงิน เอาข้อมูลของเรา แล้วมุกที่คนร้ายใช้หลอกเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ จึงต้องมาอัปเดต
4 มุกยอดฮิตของมิจฉาชีพออนไลน์แห่งปี 2024
นี่คือ 4 มุกยอดฮิตที่มิจฉาชีพชอบใช้มาหลอกเราทางออนไลน์ในปี 2024 รวบรวมโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จากสถิติของศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ พบว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึง 30 พฤศจิกายน 2567 มีการแจ้งความเกี่ยวกับคดีออนไลน์กว่า 739,000 เรื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 77,000 ล้านบาท นั้นหมายความว่า คนไทยโดนหลอกเงินวันละ 77 ล้านบาท และ 4 มุกยอดฮิตที่มิจฉาชีพออนไลน์แห่งปี 2024 มีดังนี้
- I love you so much ไอจะส่งของให้ ไอจะชวนลงทุน มิจฉาชีพจะใช้บัญชีโซเชียลปลอมมาสร้างความสัมพันธ์กับเรา แล้วหลอกว่าจะส่งของให้ หรือหลอกชวนลงทุน
- โหล ๆ นี่เพื่อนเอง จำได้ไหมเอ่ย มิจฉาชีพจะโทรศัพท์มาหา อ้างว่าเป็นเพื่อน แต่แทนที่จะบอกว่าใคร แต่คนร้ายจะให้เราทายแทน แล้วตีเนียนทำเป็นคนที่เราพูดชื่อไปนั้นแหละ ก่อนจะหลอกยืมเงิน
- สารพัด SMS ชิงโชค โปรโมชัน พัสดุตกค้าง มิจฉาชีพจะส่ง SMS ชักชวนให้ชิงโชค อ้างว่ามีโปรโมชัน หรือมีพัสดุตกค้าง พร้อมแนบลิงก์ปลอม
- คุณมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด โอนเงินมาให้ตำรวจตรวจสอบเดี๋ยวนี้ มิจฉาชีพจะโทรศัพท์หรือวิดีโอคอลหาเรา แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ แล้วหลอกว่าเราเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ให้โอนเงินให้เขาตรวจสอบ หรือหลอกติดตั้งแอปปลอม

หลอกด้วย AI Deepfake
แล้ววิธีที่คนร้ายใช้หลอกเราก็ไม่ได้มีแค่การโทรมาหลอกอย่างเดียว แต่เดี๋ยวนี้มีการใช้ AI หรือ Deepfake มาหลอกเราด้วย การหลอกลวงวิธีนี้ คนร้ายจะเอาเสียงไปสร้างขึ้นใหม่ด้วย AI แล้วเขียนสคริปต์ให้พูดตามต้องการ พร้อมกับใช้ AI ทำให้ปากขยับตามคำพูดในบท แต่ถึงการหลอกลวงเหล่านี้ก็ไม่ได้แนบเนียน 100% ซึ่งเราสามารถสังเกตคลิปที่สร้างจาก Deepfake ได้จาก 6 วิธีดังต่อไป
- การเคลื่อนไหวของปากและริมฝีปาก: มีช่วงเวลาที่ภาพและเสียงไม่ซิงค์กันอย่างสมบูรณ์
- ข้อผิดพลาดทางกายวิภาค: ใบหน้าหรือร่างกายดูแปลก หรือการเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติ
- ใบหน้า: ความไม่สอดคล้องกัน ใบหน้าไม่เรียบเนียน หรือมีริ้วรอยรอบหน้าผากและแก้ม รวมถึงไฝบนใบหน้า
- แสง: แสงไม่สม่ำเสมอ เงาผิดปกติไม่เป็นธรรมชาติ จุดสังเกตที่สำคัญคือดวงตา คิ้ว และแว่นตา
- ผม หนวด และเครา : ผม หนวด เคราดูแปลก หรือเคลื่อนไหวไม่เป็นธรรมชาติ
- การกระพริบตา: กระพริบตาบ่อยเกินไป หรือน้อยเกินไป
และข้อสังเกตอีกวิธีคือ ฉุกใจคิดไว้ก่อนเลยว่า จะเป็นไปได้แค่ไหนที่คนที่ถูกนำมาแอบอ้าง จะมาพูดเนื้อหาแบบนี้

ฟิชชิ่ง (Phishing)
กลโกงที่มิจฉาชีพใช้บ่อยมากๆ และใช้มานานเป็นสิบ ๆ ปี เพราะง่าย และยังคงได้ผลอยู่ตลอดก็คือการฟิชชิ่ง (Phishing) ที่หลอกให้เรากดลิงก์เพื่อกรอกข้อมูลต่าง ๆ การฟิชชิ่งทำให้หลายคนต้องเสียเงินมหาศาล ถึงมุกนี้จะไม่ใหม่ แต่คนร้ายก็ยังคงใช้หลอกลวงเหยื่อได้เรื่อย ๆ แล้วฟิชชิ่งคืออะไร เราจะสังเกตและป้องกันอย่างไร ไม่ให้ถูกมิจฉาชีพหลอก
ฟิชชิ่ง (Phishing) คืออะไร ?
ฟิชชิ่ง Phishing คือเทคนิคการหลอกลวงที่ผู้ไม่หวังดี จะหลอกให้เรากดลิงก์ไปกรอกข้อมูลต่าง ๆ อาจจะปลอมเว็บไซต์ขึ้นมาให้หน้าตาเหมือนเว็บไซต์ของจริง เช่น เว็บไซต์ธนาคาร email หรือหน้าล็อกอินโซเชียลมีเดีย แล้วมีแบบฟอร์ม หรือช่องเอาไว้หลอกให้เหยื่อกรอกข้อมูลของเหยื่อลงไป
เช่น ชื่อบัญชี, พาสเวิร์ด, เลขบัตรประชาชน, หมายเลขบัตรเครดิต, หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่อาจทำให้เราถูกแฮกและเสียเงินได้

ตัวอย่างภาพการ Phishing ผ่านอีเมล
สัญญาณเตือนที่บอกว่าเรากำลังถูกฟิชชิ่ง
เพื่อให้รู้เท่าทันคนร้าย นี้คือสัญญาณเตือนที่บ่งบอกว่าเรากำลังถูกฟิชชิ่ง
- มีคนที่เราไม่คุ้นเคยหรือไม่รู้จักติดต่อมา เช่น เราไม่ได้เป็นเพื่อนกับเขาทางออนไลน์ แต่อยู่ ๆ เขาก็ทักเฟซบุ๊คมา
- ได้รับอีเมลแปลก ๆ จากแหล่งที่มาที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น มีเมลส่งมาว่า คำสั่งซื้อของคุณมีปัญหา ทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้สั่งสินค้า แต่หากเรามีการสั่งสินค้าช่วงนั้นจริง ๆ ก็ควรเช็กในแพลตฟอร์มที่เราซื้อสินค้าให้แน่ใจ เพราะส่วนใหญ่แพลตฟอร์มเหล่านั้นจะมีสถานะเกี่ยวกับการขนส่งอยู่แล้ว
- ส่งข้อความมาบอกให้เราทำบางอย่างทันที เช่น ต้องชำระค่าเน็ตตอนนี้ ไม่งั้นจะไม่สามารถเล่นเน็ตได้ โปรดชำระผ่านลิงก์นี้
- มีคนมาขอข้อมูลส่วนตัวของเรา เช่น เบอร์โทร ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือรหัสผ่านต่าง ๆ
- มีคนพยายามชวนให้เราคลิกลิงก์แปลก ๆ หรือลิงก์ที่ดูไม่น่าเชื่อถือ
วัตถุประสงค์ของการฟิชชิ่ง
คนร้ายหลอกฟิชชิ่งเรา เพื่อเอาข้อมูลเราไปใช้ประโยชน์หลายอย่าง เช่นสวมรอยเป็นเรา แล้วเข้าไปยึดบัญชี Facebook, Instagram หรือบัญชีโซเชียล มีเดียอื่นๆ หรืออาจจะสวมรอยเข้าบัญชี Internet banking เป็นต้น แล้วเมื่อ login เข้าไปได้สำเร็จ คนร้ายก็ยึดบัญชีของเราไปได้เลย
วิธีระวังตัวจากฟิชชิ่ง
ดังนั้นเพื่อไม่ให้เราเสี่ยงโดนหลอก เสียข้อมูล เสียเงิน เราสามารถวิธีระวังตัวจากการโดนฟิชชิ่งได้ดังนี้
- เมื่อมีใครส่งอะไรมาให้เรา เช่น อีเมล์ ให้สังเกตการสะกดคำว่าถูกต้องหรือไม่ เขียนตามหลักไวยากรณ์หรือไม่ และถ้ามีข้อความที่บอกให้เราทำตาม, ทำโดยทันที หรือข้อความที่มีการขอรหัสผ่าน, บัตรประชาชน, เลขบัตรเครดิต หรือข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ สิ่งที่เราต้องทำคือ อย่าให้ข้อมูลโดยเด็ดขาด
- อย่าคลิกลิงก์หรือเปิดไฟล์แนบจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล, Messenger, หรือข้อความอื่นๆ
- เช็กอีเมลหรือเบอร์มือถือที่ส่งแจ้งเตือนมาหาเราให้ดีว่าเป็นของจริงหรือไม่ เพราะมิจฉาชีพมักจะใช้อีเมลปลอมที่มีลักษณะคล้ายกับบัญชีจริงๆ แต่จะมีการดัดแปลงเล็กน้อย
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น (2 Factor Authentication: 2FA) เพราะทำให้คนร้ายที่ได้ ID และ Password ของเราไป จำเป็นต้องยืนยันตัวอีก 1 ครั้ง ทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถล็อคอินแล้วเข้าบัญชีเราได้ทันที อีกต่อไป
- ไม่ควรตั้งรหัสผ่านเหมือนกันทุกเว็บไซต์ ทุกแอป ทุกบริการ
- ติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่น่าเชื่อถือ เพราะนี่ก็จะเป็นเหมือนป้อมปราการด่านแรก ที่จะช่วยปกป้องข้อมูลต่าง ๆ ในอุปกรณ์ของเราให้ปลอดภัย และที่สำคัญควรอัปเดตให้ทันสมัยอยู่เสมอ
- เปิดใช้งานการแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบ ถ้ามีการเข้าสู่ระบบด้วยบัญชีของเราจากอุปกรณ์อื่นก็จะมีแจ้งเตือนเข้ามา ซึ่งเราก็จะดูได้ว่าจากอุปกรณ์อะไร สถานที่ไหน ถ้าเราไม่ได้เป็นคนล็อคอินเข้าไปเองก็ให้กดว่า “ไม่ใช่ฉัน” เพื่อเตะเขาออกไป
การเปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น
ซึ่งการเปิดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้นก็สามารถทำได้ง่ายมาก ดังต่อไปนี้เลย (ยกตัวอย่างการเปิดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้นของ Facebook)
- กด เมนู
- กด ไอคอนรูปฟันเฟืองหรือการตั้งค่า
- กดที่ ศูนย์บัญชี
- กด รหัสผ่านและการรักษาความปลอดภัย
- กด การยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้น
เพียงเท่านี้เราก็เปิดการยืนยันตัวตนแบบ 2 ชั้นแล้ว แล้วเวลาที่เราล็อคอินเข้า Facebook ก็จะมีงขั้นตอนขอยืนยันตัวตนเพิ่มขึ้นมาอีกขั้นตามที่เราเลือกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นทางอีเมล หรือเบอร์โทร เพื่อความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น

เบอร์ 02 ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป
เมื่อก่อนถ้าเราเห็นเบอร์มือถือ เบอร์แปลก ๆ โทรมาหาเรา เราก็จะสงสัยว่าเบอร์ที่โทรมาเป็นคนร้ายหรือไม่ แต่เบอร์ที่โทรมาเป็นเบอร์ 02 เราก็จะสบายใจขึ้น เพราะว่าเป็นเบอร์บ้านหรือเบอร์สำนักงานที่ต้องลงทะเบียน แต่ในตอนนี้เบอร์ 02 ก็ไว้ใจไม่ได้แล้ว
ในวันที่ 1 มีนาคม 2024 ที่ผ่านมากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เผยว่าพบแก๊งคอลเซนเตอร์ปลอมเบอร์โทรศัพท์เป็นเบอร์ 02 โทรหรือส่ง SMS หาประชาชน และเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2024 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ได้แถลงมาตรการระเบิดสะพานโจร ครั้งที่ 2 ที่เป็นการจับกุมกลุ่มชาวจีนและชาวไทยที่ร่วมมือกันเปิดบริษัทเช่าเบอร์ 02 เพื่อหลอกคนไทย ซึ่งคนร้ายก็ใช้เบอร์ 02 กว่า หมื่นเบอร์ และหลอกคนไทยไปมากกว่า 700 ล้านครั้ง และนอกจากนี้ยังมีการใช้เครื่องส่ง SMS ปลอมด้วย
นั้นหมายความว่าเบอร์ 02 มันอาจจะเป็นมิจฉาชีพก็ได้ ดังนั้นเมื่อมีเบอร์ 02 ติดต่อมาหาเรา เราควรจะเอาเบอร์นั้นไปเช็กในอินเทอร์เน็ตเพื่อดูว่าเป็นเบอร์ของหน่วยงานใด แต่ถึงจะเช็กแล้ว ก็อย่าเพิ่งเชื่อ 100% ว่าเป็นหน่วยงานนั้นจริง ๆ เพราะคนที่โทรมาก็อาจเป็นคนร้ายได้อยู่ดี
เรื่องนี้เตือนมาจากทาง กสทช. ว่ามีมิจฉาชีพใช้หมายเลข 02-670-8888 ที่เป็นเบอร์สำนักงาน กสทช. โทรไปหาเหยื่อแล้วหลอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ กสทช. แล้วอ้างว่าจะระงับเบอร์โทรศัพท์ของเรา เนื่องจากเบอร์ของเราเกี่ยวข้องการพนันออนไลน์ สำนักงาน กสทช. เลยออกมาแจ้งว่า ไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปหาประชาชนเพื่อระงับการใช้หมายเลขโดยเด็ดขาด!

วิธีป้องกันตัวจากคนร้าย
เมื่อเราได้รับการติดต่อ ไม่ว่าจะเป็นเบอร์ 02 หรือเบอร์อื่นๆ ไลน์ หรือ SMS อย่าพึ่งเชื่อ ทำตามหรือกดลิงก์ตามที่ปลายสายบอก แต่ควรถามชื่อ ถามเรื่องเอาไว้ก่อน แล้วหาเรื่องวางสายไปก่อน หลังจากนั้นก็โทรไปที่ตัวสำนักงานนั้นจริงๆ ถ้าเรื่องที่เขาแจ้งมาเป็เรื่องจริง เราค่อยดำเนินการต่อ
หลอกให้ลักพาตัวตัวเอง
นอกจากมิจฉาชีพจะเปลี่ยนกลโกงกันบ่อย ๆ แล้ว กลุ่มเป้าหมายที่มิจฉาชีพตั้งใจจะหลอกก็เปลี่ยนไปด้วย แต่ก่อนเราคิดว่า คนร้ายจะชอบหลอกผู้สูงอายุที่อยู่บ้านคนเดียว เพราะใช้เทคโนโลยีไม่ค่อยเก่ง และไม่มีลูกหลานคอยช่วยเหลือ แต่ตอนนี้เป้าหมายของคนร้ายก็มีวัยรุ่นด้วยเหมือนกัน และมีคนโดนหลอกแล้วเป็นร้อยคน
ช่วงระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย. 2024 มีนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพกว่า 200 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งค์คอลเซนเตอร์ครั้งนี้ จะทำงานกันเป็นทีม เริ่มจากปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรศัพท์หาเหยื่อ อ้างว่าเหยื่อเกี่ยวข้องคดีต่าง ๆ เเล้วข่มขู่ให้เหยื่อหวาดกลัว แล้วหลังนั้นก็จะให้เหยื่อไปหาสถานที่เงียบ ๆ เพื่อคุยกับโจร และสั่งห้ามบอกใครเด็ดขาด หลอกให้เหยื่อกักตัวเองอยู่ในห้อง หลังจากนั้นก็จะให้เหยื่อโอนค่าการดำเนินคดีก่อน และควบคุมเหยื่อผ่านทางออนไลน์ตลอดเวลา 24 ชม. แต่แค่หลอกเงินจากเหยื่อยังไม่พอ แต่ยังหลอกให้เหยื่อหลอกลวงผู้ปกครองของตัวเองด้วย โดยจะให้เหยื่อสร้างสถานการณ์ทำเป็นโดนลักพาตัว พร้อมสั่งให้เหยื่อพิมพ์ข่มขู่ผู้ปกครองเพื่อให้โอนเงินให้ได้มากที่สุด
สายด่วนแจ้งความ ร้องทุกข์
ใครเจอมิจฉาชีพหลอกลวง แลได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน หรือสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่แนะนำแจ้งความออนไลน์ เพราะมิจฉาชีพก็อาจปลอมเวป ปลอมเพจการแจ้งความ การร้องทุกข์ การขอความช่วยเหลือออนไลน์ได้เหมือนกัน
ชมรายการ Digital Thailand ตอน “ อัปเดตกลโกงมิจฉาชีพที่ควรรู้ ไม่งั้นอาจหมดตัว! คอลเซนเตอร์ Phishing Deepfake ” ได้ที่รายการย้อนหลังตอนนี้เลย
https://it24hrs.com/2025/update-online-scams-phishing-call-center/
ในรายการ Digital Thailand ทุกวันเสาร์ ทางช่อง 3 กด 33 เวลา 4.40-5.05 น.
ยังมีบทความที่น่าสนใจ
แอปกู้เงินเถื่อน! มาติดตั้งบนมือถือได้ยังไง? อันตรายแค่ไหน? เอาแอปออกต้องทำไง?
พาดูโรงงานผลิตแอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก!! ณ ประเทศจีน บุกอาณาจักร Gree ดูนวัตกรรมสุดจึ้ง
อย่าลืมกดติดตามอัปเดตข่าวสาร เทคนิคดีๆกันนะคะ Please follow us
Youtube it24hrs
Twitter it24hrs
Tiktok it24hrs
facebook it24hrs
ติดต่อโฆษณา [email protected] โทร 0802345023